ในยุคที่ตลาดกำลังหาสับสน กำหนดทิศทางการลงทุนไม่ได้ เราจะทำอย่างไร พบคำตอบจากกูรูชั่นนำทั้งในและต่างประเทศ อาทิเช่น คุณ Peter Rosenstreich ผู้ที่ได้รับเชิญให้มีการสัมภาษณ์และมีบทวิเคราะห์เศรษฐกิจ 

เหตุการณ์ต่างๆ ด้านการลงทุนผ่าน CNBC และ Bloomberg อยู่เป็นประจำ ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล นักวิเคราะห์ระดับแนวหน้าของประเทศ กูรูด้าน Fund flow คุณปริญญ์ พานิชภัค จะมาวิเคราะห์สถานการณ์ มุมมอง โอกาส และความเสี่ยงในการลงทุนของตลาดใน Emerging Market VS Global Market 

งานนี้งานเดียวที่จะเปิดทุกประเด็นการลงทุน ครั้งแรกบนเวทีกับบทวิเคราะห์นโยบายดอกเบี้ยของ FED VS Helicopter Money จับตาทิศทางการลงทุนหลังเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐและประเด็นต่างๆ ที่สำคัญอีกมากมาย

 

วัตถุประสงค์ 

เพื่อกระตุ้นให้นักลงทุนไทย ตระหนักรู้ทันกลไกของเศรษฐกิจโลก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการลงทุน ของนักลงทุนทุกท่าน ที่เป็นนักลงทุนไทย ไม่ว่าจะลงทุนในหุ้น ในตราสารอนุพันธ์ทางการเงิน ต่าง ๆ 

ตลอดจนผู้ประกอบการ เจ้าของกิจการ นักธุรกิจรวมถึงทิศทางเศรษฐกิจใน อนาคตปลายปี 2016 หลังจากมีเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถึงกลางปี 2017 กับนโยบาลทางการเงิน นโยบายการคลังต่าง ๆ ของประเทศมหาอำนาจ เช่น นโยบายทางการเงินของ FED เรื่องการขึ้นและไม่ขึ้นดอกเบี้ย มีผลอย่างไร? 

ECB กับนโยบายดอกเบี้ยติดลบ และเรื่องของ QE ที่ยังคงต้องใช้ต่อไป จะมีผลอย่างไรในอนาคต ในกลุ่ม ยุโรป EU เรื่องการให้ความช่วยเหลือปัญหาหนี้ของอิตาลีและปัญหาในยุโรป BOE กับปัญหาเรื่อง Brexit ที่ยังต้องเป็นปัญหาต่อไป ในช่วง 2ปีต่อไปนี้ จะออกมารูปแบบไหน? 

พร้อมกับปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ BOJ กับนโยบายดอกเบี้ยต่ำ ดอกเบี้ยติดลบ และการทำQQE หรือ จะมีการประกาศออกเฮลิคอปเตอร์มันนี่ (Helicopter money) กับการแก้ไขปัญหาของญี่ปุ่นที่กำลังเผชิญกับภาวะเงินฝืดไปให้ได้ จะมีผล อย่างไร? ในภาพการลงทุนจับตาดูกันอย่างไร ? 

กับโอกาสในการลงทุน ไม่ว่าจะออกมารูปแบบไหน BOC กับภาวะเศรษฐกิจถดถอย เศรษฐกิจจะชะลอตัวลง กับปัญหาฟองสบู่ จีนยังมีปัญหาอะไรต่ออีก ต้องมาร่วมงานสัมมนาครั้งนี้นี้ ตลอดจนตลาดหุ้นไทยในบ้านเรา 2 – 5 ปี การเติบโตในกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ที่น่าสนใจ จะวางแผนลงทุนอย่างไร?กลุ่มประเทศกำลังพัฒนา Emerging Market จะมีทิศทางอย่างไร ?

จะทำให้เราเห็นภาพรวมการลงทุนทั้งหมด และเจาะลึกทุกปัญหา ทั้งในตลาดเงิน ตลาดทุน จะมีผลเชิงบวก เชิงลบอย่างไร ?

ต่อการลงทุนจะทำให้นักลงทุนที่เข้าร่วมการสัมมนาครั้งนี้ จะได้รับความรู้เพื่อเป็นแนวทางในการนำไปกำหนดกลยุทธ์การลงทุนในปลายปี 2016 –ปี 2017

ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากกับกลุ่มนักลงทุนทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในหุ้น ซึ่งเป็นขาขึ้นอย่างเดียว Sectors ไหนไป Sectors ไหนจะมา หรือจะลงทุนตราสารอนุพันธ์ที่มีทั้ง ตลาดขาขึ้นและขาลงที่จะทำกำไรได้ หรือจะลงในหุ้นต่างประเทศ

มีทั้ง Options, Futures & Forex ตลอดจนตลาด ETFs (Bull &bear 1X,2X,3X) ขาขึ้นและขาลง จะลงทุนในภาวะเศรษฐกิจในยามปกติอย่างไร ? ในภาวะที่ไม่ปกติหรือวิกฤตเศรษฐกิจอย่างไร?