ทัศนคติเชิงบวกแบบคิดอยากขายและอยากสำเร็จในงานขาย
รหัสหลักสูตร: 58964
สัมมนานี้ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว
(ถ้ามีจัด ท่านจะได้สิทธิ์ก่อน)
ถ้าจะทำให้งานขายเป็นเรื่องที่ง่าย ไม่ต้องยุ่งยาก ไม่ต้องลำบาก ไม่ต้องท้อแท้ใจ แถมยังขายได้ประสบความสำเร็จ นักขายจำเป็นต้องมีพื้นฐานหนึ่งซึ่งเป็นต้นทุนหลักที่จะทำให้งานขายนั้นๆ ยังสามารถดำเนินก้าวหน้าต่อยอดขึ้นเป็นลำดับต่อไปได้ นั่นก็คือ การมีทัศนคติเชิงบวก ทัศนคติเกี่ยวกับงานขายเป็นเรื่องที่ต้องมาทำความเข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง เพื่อให้เข้าใจถึงต้นทุนพื้นฐานนี้ที่ต้องมี และต้องมีให้มากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย การมีทัศนคติที่ดีกับงานขายไม่ใช่การหลอกตนเองว่างานขายมันดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ เพื่อให้ตนเองสบายใจในเบื้องต้น แล้วก็มากลุ้มใจในตอนท้าย แต่การมีทัศนคติที่ดีกับงานขายจะช่วยให้ทราบว่า หลายต่อหลายครั้งที่งานขายไม่ประสบความสำเร็จ เกิดจากการที่ตนเองคิดเอง ตัดสินเอง สรุปเอง ไปแล้วแทบทั้งสิ้น ซึ่งจริงๆ ลูกค้าอาจจะไม่ได้คิดอย่างที่เราคิดก็เป็นได้นั่นเอง
สิ่งที่ได้รับจากการฝึกอบรม
n เพื่อสร้างแนวความคิดต่องานขายด้วยต้นทุนทางความคิด
n เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมองเห็นประโยชน์ของการมีทัศนคติเชิงบวก
n เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมเกิดแรงบันดาลใจและช่วยส่งผลลัพธ์ที่ดีต่องานขาย
n เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถพัฒนาตนเองให้อยากขาย งานขายเป็นงานแห่งความสุขและอยากสำเร็จในงานขาย
é เรียนรู้และเข้าใจตนเอง
é เรียนรู้และเข้าใจผู้อื่น
é เรียนรู้และเข้าใจในธรรมชาติของงานขาย
é ทัศนคติในการมองโลก มองตนเอง มองผู้อื่น
é ทำไมต้องสร้างต้นทุนทางความคิดก่อนการขาย
é ทัศนคติเชิงบวกแบบคิดอยากขาย อยากสำเร็จในงานขาย
é เทคนิคการตรวจจับทัศนคติเชิงลบ
é เทคนิคการปรับเปลี่ยนทัศนคติเชิงลบไปเป็นเชิงบวก
é ทัศนคติที่ดีต่อการร่วมกันทำงานเป็นทีมในการขาย
é แนวคิดดีๆ ต่อการแก้ปัญหาความขัดแย้งในงานขาย
é องค์กรแห่งความสุข สร้างได้ด้วยทัศนคติเชิงบวก
é กรณีศึกษาจากประสบการณ์ตรงของวิทยากร
é Workshop แบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติ
é สรุปเนื้อหาแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ด้วยการวิเคราะห์จากผู้เข้ารับการอบรม
é ข้อคิดฝากให้กับผู้เข้ารับการอบรม เพื่อนำกลับไปฝึกปฏิบัติให้เกิดการพัฒนาที่ดียิ่งขึ้น
ผู้เข้าฝึกอบรม เหมาะสำหรับหัวหน้างาน และพนักงานขายทุกระดับ
วิธีการและรูปแบบการฝึกอบรม
1. บรรยาย 60% : กิจกรรมการเรียนรู้ 40%
2. การอภิปรายร่วมและกิจกรรมกลุ่มแบบระดมความคิดตลอดการฝึกอบรม
3. กรณีศึกษาแบบยกตัวอย่างเป็น Model Case Study (Workshop)
4. สรุปและถาม-ตอบ เพื่อทดสอบความเข้าใจ