“เทคนิคการโค้ชและการสอนงานเพื่อยกระดับผลงาน เพิ่มผลิตภาพของทีม และนาองค์กรสู่การบรรลุเป้าหมายธุรกิจอย่างมืออาชีพ
รหัสหลักสูตร: 61185
สัมมนานี้ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว
(ถ้ามีจัด ท่านจะได้สิทธิ์ก่อน)
1. มีความรู้ความเข้าใจหลักการ เทคนิคการโค้ชหรือการชี้แนะสอนงานที่ถูกต้อง เป็นระบบ สามารถพัฒนาและดึงศักยภาพของผู้รับการโค้ชได้อย่างมีประสิทธิผลเพื่อการสร้างผลงานและเพิ่มผลิตภาพของทีม
2. เรียนรู้แนวทางและเทคนิคสาหรับการพัฒนาตนเองในด้านต่างๆให้มีทักษะความสามารถและคุณสมบัติของการเป็นโค้ชที่เก่งและมีประสิทธิผลสูง
3. เรียนรู้เทคนิควิธีในการสอนงานและการโค้ชผู้ใต้บังคับบัญชาประเภทต่างๆ ได้เรียนรู้และเข้าใจหลักการและเทคนิคเชิงจิตวิทยาที่จาเป็นสาหรับการโค้ชบุคคลลักษณะต่างๆ เพื่อให้การโค้ชสัมฤทธิ์ผลอย่างแท้จริงและสอดคล้องเหมาะสมกับแต่ละประเภทบุคคล
4. ได้เรียนรู้หลักการโค้ชและฝึกฝนการใช้เทคนิคต่างๆในการโค้ชและการสอนงาน เพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงขั้นตอนในการสอนงานตั้งแต่ต้นจนตลอดกระบวนการ (End-to-End Process) เข้าใจและมองเห็นจุดสาคัญในแต่ละขั้นตอนของการโค้ชและสอนงานที่ต้องมุ่งเน้นและใส่ใจ เพื่อให้การโค้ชสัมฤทธิ์ผล
5. สามารถนาความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้สาหรับการเตรียมความพร้อมในส่วนต่างๆสาหรับการโค้ชและสอนงานจริงให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา และเพื่อการเรียนรู้และพัฒนาฝึกฝนทักษะการโค้ชและสอนงานด้วยตัวเองอย่างต่อเนื่องจนเกิดความชานาญต่อไป
1. หลักการและแนวคิดของการโค้ชกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สมัยใหม่
นิยามและความหมายของการโค้ชหรือการชี้แนะสอนงาน
ความแตกต่างระหว่าง Coaching, Training, Mentoring และ Counseling
ประโยชน์ที่ได้รับจากการโค้ช ในมุมมองของผู้ใต้บังคับบัญชา ผู้บังคับบัญชา และองค์กร
เหตุใดการโค้ชหรือการชี้แนะการสอนงานจึงเหมาะสมกับองค์กรธุรกิจในยุคสมัยปัจจุบัน? กับดักและหลุมพรางที่ทาให้การโค้ชล้มเหลว
โค้ชให้ถูกต้องได้ผลจริงต้องทาอย่างไร? ความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการโค้ช
องค์กรควรเริ่มต้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้วยแนวทางการโค้ชเมื่อไหร่ อะไรคือสัญญาณบ่งชี้ความจาเป็นและเหมาะสมสาหรับการนาวิธีการโค้ชมาใช้พัฒนาศักยภาพบุคลากรและควรเริ่มต้นอย่างไร?
สัญญาณต่างๆที่บ่งบอกว่าการโค้ชล้มเหลว ความเข้าใจและความหลงผิดอย่างมหันต์เกี่ยวกับการโค้ช เรียนเทคนิคการโค้ชมาได้ใบรับรองผ่านหลักสูตรการเป็นโค้ช ไม่ใช่ว่าจะเป็นโค้ชได้
2. The new frontier บทบาทหน้าที่ของผู้นา ผู้บังคับบัญชา และหัวหน้างานยุคใหม่กับการโค้ชและการสอนงาน
ความเป็นมืออาชีพของผู้นาและหัวหน้างาน หมายถึง อย่างไร?
บทบาทหน้าที่ของผู้นาในฐานะโค้ช (Leader as a coach)
องค์ประกอบที่สาคัญและจาเป็นสาหรับการเป็นโค้ช หากองค์กรจะจ้างโค้ชจากภายนอกมาพัฒนาศักยภาพของบุคลากรและผู้บริหารขององค์กรควรพิจารณาจากอะไร?
คุณสมบัติและคุณลักษณะพื้นฐานของการเป็นโค้ช
เรียนรู้จากพระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นต้นแบบสุดยอดบรมครูโค้ชของโลก
o คุณสมบัติสาคัญของการเป็นผู้สอนหรือโค้ชที่ดี (บุคลิกภาพ และคุณธรรม)
o หลักทั่วไปในการโค้ขและการสอน
o วิธีการสอนแบบต่างๆ
o ลีลาการสอน กลวิธีและอุบายประกอบการสอนให้บรรลุผล
3. จิตวิทยาและการเข้าใจเกี่ยวกับบุคคลที่โค้ชจาเป็นต้องรู้เพื่อการสอนงานอย่างสัมฤทธิ์ผล
ความแตกต่างของทัศนคติ วิธีคิด และพฤติกรรมในการทางาน ของบุคลากรในแต่ละเจนเนเรชั่น
รูปแบบการเรียนรู้และการรับรู้ของบุคลากรในทีมงานกับวิธีการสอนงาน
พฤติกรรมของผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีต่อการโค้ชและสอนงานของหัวหน้างาน
เทคนิคการสร้างการเปิดใจยอมรับเพื่อการโค้ช (Techniques for building rapport)
จังหวะและโอกาสในการโค้ช ความแตกต่างระหว่าง Coach มือใหม่ และ Coach มืออาชีพ
จิตวิทยาสาหรับการโค้ชหรือสอนงานผู้ใต้บังคับบัญชาประเภทต่างๆ
o Senior VS Junior (ผู้อาวุโส VS คนรุ่นใหม่)
o Star, Average, Poor Performer (ผลงานยอดเยี่ยม VS ผลงานยอดแย่)
o Low Self-Confident VS Over Self-Confident (ขาดความมั่นใจ VS มั่นใจเกินไป)
o Proactive VS Dead wood (เปี่ยมพลัง VS ไม้ตายซาก)
o Sensitive VS Resistive (อ่อนไหว VS ดื้อเงียบ)
4. หลักการ เทคนิค และขั้นตอนการโค้ชเพื่อการสร้างผลงานและการเพิ่มผลิตภาพ (Coaching for Performance and Productivity)
การโค้ชหรือการสอนงานเพื่อสร้างผลงานหมายถึงอย่างไร? นิยามความหมายของผลงานและผลิตภาพ
ความสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างศักยภาพสมรรถนะความสามารถและผลงาน
การโค้ชและสอนงานแบบกลุ่มและรายบุคคล
ขั้นตอนการโค้ชและสอนงานเพื่อสร้างผลงานและผลิตภาพ
o ขั้นตอนที่ 1 การวางแผนการโค้ชและสอนงาน
o ขั้นตอนที่ 2 การเตรียมความพร้อมสาหรับการโค้ชและสอนงาน
o ขั้นตอนที่ 3 ปฏิบัติการโค้ชและสอนงาน
- การกาหนดและตั้งเป้าหมาย
- การตรวจสอบสภาวะความเป็นจริงและการประเมินช่องว่างของศักยภาพและผลงาน
- การโค้ชและสอนงาน เทคนิคการถามและตั้งคาถามเพื่อการค้นหาและพัฒนาศักยภาพ
การโค้ชเพื่อพัฒนาศักยภาพด้วยเทคนิค GROW
o ขั้นตอนที่ 4 การสร้างข้อผูกมัดเพื่อนาไปสู่การปฏิบัติ
o ขั้นตอนที่ 5 การติดตามและประเมินพัฒนาการ
o ขั้นตอนที่ 6 การให้ข้อมูลสะท้อนกลับ และการปรับเปลี่ยนแนวทาง
5. เรียนรู้จากตัวอย่างการสอนงานเพื่อนาไปปรับใช้สาหรับการโค้ชและสอนงานผู้ใต้บังคับบัญชา
6. สรุปการเรียนรู้ โค้ชชิ่งประเด็นของผู้เข้าสัมมนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน และแนะนาการนาไปขยายผลในองค์กรของผู้เข้าสัมมนา