เหมาะกับผู้เรียนที่: รู้แกรมม่า พูดได้แต่ภาษาสำเร็จรูป แต่ไม่สามารถสื่อสารในสิ่งที่คิดได้ เพราะไม่รู้จะแต่งประโยคอย่างไร เอาแกรมม่าที่รู้มาประยุกต์ไม่เป็น หรือรู้แต่ยังไม่ดีพอที่จะนำมาใช้ได้ในแต่ละสถานการณ์

สิ่งที่ผู้เรียนจะได้รับ:

รู้หลักการใช้แกรมม่า มาให้เป็นประโยชน์กับชีวิตประจำวันมากขึ้น สามารถสร้างประโยคได้เอง ในแต่ละสถานการณ์ โดยเฉพาะในการติดต่องานที่เป็นและไม่เป็นทางการ และได้เรียนรู้คำศัพท์จำเป็น และคำเฉพาะ รู้จักการตั้งคำถามเชิงซ้อน และสำนวนการพูดที่ควรรู้

1. ทบทวนแกรมม่าพื้นฐานต่างๆ และเสริมความรู้แกรมม่าที่ช่วยให้ประโยคสลับซับซ้อนและกระชับมากขึ้น  

โดยเข้าใจง่าย มีเทคนิคให้จำ และเข้าใจอย่างเป็นระบบ สนุก และไม่เหมือนใคร

2. ฝึกการแต่งประโยคง่ายๆ ตามวิทยากร การสร้างประโยคยากๆ ไปพร้อมๆ กัน และเรียนรู้การสร้างประโยคคำถามแบบง่ายๆ ถึงซับซ้อน 

3. แนะนำตัว ทักทาย บอกลา โดยมีบางประโยคต้องประยุกต์ได้จากหลักภาษาอังกฤษซึ่งจะผ่านการเรียนที่ง่ายมากๆ 

4. ฝึกฟังจากสื่อการเรียนต่างๆ 

5. พูดคุยเรื่องทั่วๆ ไป เช่น ครอบครัว อาชีพ การบอกทาง รู้จักการตั้งคำถามเชิงการนำประโยคคำถามมาเป็นประโยคบอกเล่า (indirect question) เช่น Do you know where the nearest post office is? แทนที่จะถามได้แค่ Where is the nearest post office? 

6. Work shop : ฝึกพูดโดยให้ผู้เข้าอบรม คิดบทสนทนาเองโดยมีการสร้างบทสนทนาที่คิดขึ้นได้เอง จากการรู้หลักแกรมม่าเพิ่มเข้ามาเล็กน้อย แต่กลับทำให้การพูดมีศักยภาพมากขึ้น 

7. ร้านอาหาร การซื้อของ นอกจากเราจะใช้สำนวนทั่วไปในการสื่อสารแล้ว เรายังสามารถพูดคุย ในร้านอาหารได้มากขึ้น เช่น ฉันอยากกินอาหารจานที่คุณพึ่งเสิร์ฟให้กับลูกค้าคนนั้น หรือรู้จักการเปรียบเทียบสินค้าที่จะซื้อ 

ว่าดีกว่า ถูกกว่า สวยกว่า หรือรู้จักการถามความคิดเห็นกับเพื่อนที่มาด้วยหรือคนขาย โดยการเรียนควบคู่กับหลักแกรมม่าที่จำเป็นของแต่ละสถานการณ์

8. ฝึกฟังจากสื่อต่างๆ 

9. Work shop: ฝึกพูดโดยให้ผู้เข้าอบรม คิดบทสนทนาเองโดยมีการสร้างบทสนทนาที่คิดขึ้นได้เอง จากการรู้หลักแกรมม่าเพิ่มเข้ามาเล็กน้อย แต่กลับทำให้การพูดมีศักยภาพมากขึ้น