หลักสูตร "โครงการอนุรักษ์การได้ยิน (Hearing Conservation Program)"
รหัสหลักสูตร: 65296
สัมมนานี้ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว
(ถ้ามีจัด ท่านจะได้สิทธิ์ก่อน)
หลักการและเหตุผล:
โดยที่กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับความร้อน แสงสว่าง และเสียง พ.ศ. 2559 กำหนดให้นายจ้างจัดทำมาตรการอนุรักษ์การได้ยินในสถานประกอบกิจการในกรณีที่สภาวะการทำงาน ในสถานประกอบกิจการมีระดับเสียงที่ลูกจ้างได้รับเฉลี่ยตลอดระยะเวลาการทำงาน 8 ชั่วโมง ตั้งแต่ 85 dB(A) ขึ้นไป ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิบดีประกาศกำหนด
(1) นโยบายการอนุรักษ์การได้ยิน
(2) การเฝ้าระวังเสียงดัง (Noise Monitoring)
(3) การเฝ้าระวังการได้ยิน (Hearing Monitoring)
(4) หน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ที่เกี่ยวข้อง
ข้อ 3 ให้นายจ้างจัดให้มีการเฝ้าระวังเสียงดัง โดยการสำรวจและตรวจวัดระดับเสียง การศึกษาระยะเวลาสัมผัสเสียงดัง และการประเมินการสัมผัสเสียงดังของลูกจ้างในสถานประกอบกิจการแล้วแจ้งผลให้ลูกจ้างทราบ
ข้อ 4 ให้นายจ้างจัดให้มีการเฝ้าระวังการได้ยินโดยให้ดำเนินการ ดังนี้
- ทดสอบสมรรถภาพการได้ยิน (Audiometric sting) แก่ลูกจ้างที่สัมผัสเสียงดังที่ได้รับเฉลี่ยตลอดระยะเวลาการทำงานแปดชั่วโมงตั้งแต่ 85 dB(A) ขึ้นไป และให้ทดสอบสมรรถภาพ การได้ยินของลูกจ้างครั้งต่อไปอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
- แจ้งผลการทดสอบสมรรถภาพการได้ยินให้ลูกจ้างทราบภายใน 7 วันนับแต่วันที่นายจ้าง ทราบผลการทดสอบ
- ทดสอบสมรรถภาพการได้ยินของลูกจ้างซ้ำอีกครั้งภายใน 30 วัน นับแต่วันที่นายจ้าง ทราบผลการทดสอบ กรณีพบว่าลูกจ้างมีสมรรถภาพการได้ยินเป็นไปตามข้อ 6
ข้อ 5 หากผลการทดสอบสมรรถภาพการได้ยิน พบว่าลูกจ้างสูญเสียการได้ยินที่หูข้างใดข้างหนึ่งตั้งแต่ 15 dB(A) ขึ้นไป ที่ความถี่ใดความถี่หนึ่ง ให้นายจ้างจัดให้มีมาตรการป้องกันอันตรายอย่างหนึ่งอย่างใด
ข้อ 6 ให้นายจ้างจัดทำและติดแผนผังแสดงระดับเสียง (Noise Contour Map) ในแต่ละพื้นที่ เกี่ยวกับผลการตรวจวัดระดับเสียง ติดป้ายบอกระดับเสียงและเตือนให้ระวังอันตรายจากเสียงดัง
ข้อ 7 ให้นายจ้างอบรมให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการอนุรักษ์การได้ยินความสำคัญ ของการทดสอบสมรรถภาพการได้ยิน อันตรายของเสียงดัง การควบคุม ป้องกัน และการใช้อุปกรณ์ คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลแก่ลูกจ้างที่ทำงานในบริเวณที่มีระดับเสียงดังที่ได้รับเฉลี่ยตลอดระยะเวลา การทำงาน 8 ชั่วโมงตั้งแต่ 85 dB(A) ขึ้นไป
ข้อ 8 ให้นายจ้างประเมินผลและทบทวนการจัดการมาตรการอนุรักษ์การได้ยินในสถานประกอบกิจการไม่น้อยกว่าปีละ 1 ครั้ง
ข้อ 9 ให้นายจ้างบันทึกข้อมูลและจัดทำเอกสารการดำเนินการตามข้อ 3 ถึงข้อ 10 เก็บไว้ในสถานประกอบกิจการไม่น้อยกว่า 5 ปี พร้อมที่จะให้พนักงานตรวจความปลอดภัยตรวจสอบได้
ดังนั้นบริษัทฯ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะอบรมให้ความรู้แก่พนักงานในสถานประกอบการได้ทราบถึง ตลอดจนแนวทางในการป้องกันอันตรายจากเสียงดัง (Noise) และการจัดทำโครงการอนุรักษ์การได้ยินในสถานประกอบการให้สอดคล้องตามกฎหมายกำหนดอย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มความปลอดภัยให้กับพนักงานของเรา
1.เพื่อให้พนักงานทราบหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำโครงการอนุรักษ์การได้ยินในสถานประกอบกิจการ
2.เพื่อป้องกันและควบคุมไม่ให้พนักงานเกิดการสูญเสียการได้ยินจากการปฏิบัติงาน
3.เพื่อให้พนักงานมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการสูญเสียการได้ยิน
4.เพื่อให้พนักงานมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบจากการสูญเสียการได้ยินที่นำไปสู่การปฏิบัติตนให้มั่นใจว่าปลอดภัยจากเสียงดังอยู่เสมอ
5.เพื่อให้พนักงานมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันอันตรายจากเสียงดังในสถานประกอบการและนำไปสู่การปกป้องตนเองจากเสียงดังได้ตลอดเวลาทำงาน
6.เพื่อให้พนักงานสามารถเลือกใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลที่เหมาะสมและใช้อย่างถูกต้อง
สอนสดออนไลน์ผ่านทาง Facebook
•ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดทำมาตรการอนุรักษ์การได้ยิน
•ทบทวนข้อกำหนดกฎหมายที่เกี่ยวข้องเบื้องต้น
•นโยบายมาตรการอนุรักษ์การได้ยิน / หน้าที่รับผิดชอบของผู้ที่เกี่ยวข้อง
•ความอันตรายของเสียงดัง
•ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการสูญเสียการได้ยิน
•การสำรวจระดับเสียงในพื้นที่ทำงานและการเฝ้าระวังเสียงดัง (Noise Monitoring)
•การเฝ้าระวังการได้ยิน (Hearing Monitoring)
•การตรวจประเมินสมรรถภาพการได้ยิน
•การใช้งานอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลในการป้องกัน
•มาตรการอนุรักษ์การได้ยิน
•แนวทางควบคุมและป้องกันอันตรายจากเสียงดัง (Noise)