คลังสินค้าเป็นหน่วยงานที่สำคัญมากในทุกองค์กรเพราะเป็นสถานที่จัดเก็บและส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าอย่างถูกต้องทันต่อความต้องการของลูกค้า ดังนั้นเราควรมีระบบการเลือกจัดเก็บจำนวนที่เหมาะสม เก็บเป็นระเบียบถูกต้องและมีระบบการจัดสินค้าที่ดีเพื่อนำส่งสินค้าให้ลูกค้าอย่างถูกต้องและรวดเร็ว

การเคลื่อนย้ายสินค้าอย่างถูกวิธีจะทำให้สินค้าไม่มี่ความเสียหายและมีการเคลื่อนย้ายในระยะทางที่สั้นที่สุดก็เป็นอีกหนึ่งความสำคัญในงานบริหารคลังสินค้า หลักสูตรนี้ผู้เข้าอบรมจะทราบหลักการการปฎิบัติงานและการบริหารงานคลังสินค้าในทุกขั้นตอนที่สำคัญเพื่อการจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าได้อย่างประทับใจและสามารถควบคุมต้นทุนในการบริหารคลังสินค้าให้ต่ำอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ท่านจะได้รับทราบว่าคลังสินค้าสมัยใหม่มีวิธีจัดการอย่างไรเพื่อการนำไปปรับใช้

เนื้อหาการอบรม (Course Outline) :

 

•หลักการ ABC Analysis เพื่อการวางแผนให้สินค้ามีเพียงพอกับการเบิกส่งลูกค้าตลอดเวลา

•หลักการ Pareto Ratio เพื่อเน้นจัดการกับสินค้าสำคัญมาก

•การนำระบบ Barcode และ RF มาใช้ในการบริหารแบบ Modern Warehouse

•ขั้นตอนการทำงานและหลักการทำงานที่จำเป็น ทั้ง Warehouse ทั่วไปและ Modern Warehouse

oการวางแผนการสั่งสินค้าในเวลาที่เหมาะสม

1.การศึกษาสถิตการขาย / การจ่ายสินค้า

2.การตั้งค่า Minimum Stock Level (จุดสั่งสินค้า)

3.การตั้งค่า Maximum Stock Level (จุดสูงสุดในการสั่งสินค้า)

4.การสั่งสินค้าทุกวันโดยใช้เวลาน้อยที่สุด

5.การมีนโยบายในการเก็บสต็อค

6.การวิเคราะห์ของขาดเทียบกับนโยบายระดับการจัดเก็บ

oการรับสินค้า Receiving

1.เอกสารและอุปกรณ์ทีสนับสนุนการทำงาน

2.การตรวจของที่มาส่งกับ P.O.

3.การจัดเวลาการใช้งาน Loading Bay ในการรับ-ส่งสินค้า ให้ไหลลื่น

4.ขั้นตอนการตรวจรับสินค้า

5.การรับสินค้าของ Modern Warehouse เช่นการคีย์น้ำหนักสินค้าทุกตัวเข้าระบบ

6.การจัดการรับส่งของที่ไม่ตรงกับใบ P.O.

oการจัดเก็บสินค้า Put Away

1.การแบ่งพื้นที่จัดเก็บเป็น Pick Location และ Reserve / Replenishment

2.การจัดเก็บสินค้าเข้าที่ด้วยระบบ Barcode

3.จัดเก็บให้ทำงานแบบ FIFO/LIFO

4.การแก้ไขปัญหาพื่นที่ตำแหน่งที่จะจัดเก็บเต็มด้วยระบบ Tagging

5.การจัดเก็บและการทำลายเอกสารฝากจากหน่วยงานบัญชี

6.การจัดเก็บของ Modern Warehouse

oการเติมสินค้า Replenishment

1.การวางแผนพื้นที่เก็บสินค้าเพื่อการเติมสินค้า

2.หลักการลดการใช้งานรถยก

3.การเตรียมรถยกให้พอเพียงกับการเติมสินค้า

4.การตั้งค่า Minimum Stock เพื่อการสั่งเติม (Modern Warehouse)

oการจัดออร์เดอร์ Order Picking

1.วิธีการจัดออร์เดอร์วิธีต่างๆให้เหมาะสมกับปริมาณออร์เดอร์ / ลักษณะออร์เดอร์

•ส่งออร์เดอร์เป็น Pallet

oการส่งอย่างไรให้เป็น FIFO ให้ได้

oการส่งโดย Pallet กระดาษ (ส่งเป็น Pallet แต่ Pallet ไม้ไม่ได้ขึ้นรถ)

oการตัก Pallet ขึ้นรถ

•จัดออร์เดอร์แบบ Full Case

oการจัดแบบ Manual

การจัดการ Picking List

การจัดเตรียมรถเข็นในการจัดออร์เดอร์ให้ได้เร็ว

การจัดการกรณีของไม่มีให้จัด

oการจัดแบบ Modern Warehouse

Voice Picking

•จัดออร์เดอร์แบบ Break Case

oการจัดแบบ Manual

การจัดโดยรถเข็น

การจัดโดยระบบสะพาน

oการจัดแบบ Modern Warehouse

Pick to Light

Put to Light

oจุดพักสินค้าก่อนขึ้นรถ

1.การกำหนดตำแหน่งย่อยที่จุดพัก

2.ออร์เดอร์เดียวกันจัดสองคนต้องมาที่จุดนัดพบ

3.การตรวจนับแบบ Dual Control ก่อนลำเลียงขึ้นรถ

oการจัดส่ง

1.นโยบายหรือมาตรฐานการจัดส่ง

2.การจัดระบบ Routing เพื่อการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพ

3.การจัดส่งที่มี Cost Per Order ต่ำ

4.การจัดการกรณีส่งสินค้าไม่สำเร็จ

5.การควบคุมความสามารถในการส่งออร์เดอร์ด้วย %OTIF (On Time In Full)

•การตรวจสอบสต็อค ณ สิ้นเดือนเพื่อประเมินความเหมาะสมของปริมาณสินค้าที่เราจัดเก็บ

•การตรวจปริมาณสต็อคทุกครั้งที่มีการหยิบสินค้าใน Modern Warehouse

•การวางแผนพื่นที่จัดเก็บโดยรวม (Stock Location Allocation)

•การบริหารและการลด Dead Stock อย่างได้ผล

•การบริหารคลังด้วยป้ายสัญญลักษณ์ต่างๆ

•การนับสต็อคแบบ Cycle Count

oหลักการและการจัดการ

1.ระยะเวลาต่อรอบ

2.การแบ่งกลุ่มสินค้าในการทำ Cycle Count

3.การเลือกสินค้าสำคัญที่ตรวจนับหลายหนใน 1 รอบ

4.การปรับสต็อคทันทีที่พบการสินค้าสลับ

•การเตรียมการนับสต็อคประจำปี

oการจัดกำลังคนจากทุกหน่วยงาน

oการจัดทำ Gantt Chart เพื่อการครวจนับสต็อคอย่างไหลลื่น

oการกำหนดวันเวลาสำหรับทุกหน่วยงานในการตรวจนับสต็อค

oการจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มระหว่างตรวจนับสินค้า

oการเตรียมเอกสารตรวจนับ

oการแบ่ง Location กับจำนวนคนนับ

oการเตรียมการการคีย์เข้าระบบ

oการวางแผนการ Recount อย่างมีประสิทธิภาพ

oการสรุปผลก่อนแจ้งทุกคนกลับบ้านได้

•การตรวจนับสินค้าใน Modern Warehouse

•การควบคุมการทำงานด้วย KPI ที่สามารถทำได้

•การนำ Lean Sigma มาปรับใช้เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน

•ระบบ Cross Docking เพื่อประสิทธิภาพในการจัดเก็บและจัดออร์เดอร์

•การควบคุมความปลอดภัยในคลังสินค้า