หวัดดีฮับป๋ม … เจอกันอีกแล้วนะแจ๊ะ

แต่ฮะเก๋าไม่ได้มาทักทายเฉย ๆ น้า หยิบความรู้ “20 วิธีเข้าฟังสัมมนา ให้มีอาชีพ ให้มีเงินล้าน” มาฝากด้วย

ซึ่งทุกคนที่เลือกไปฟังสัมมนาต่างต้องการมีอาชีพ ต้องการมีเงินกันช่ายมัยล่า…

ดังนั้น จะฟังอย่างไรให้มีอาชีพ ให้มีเงิน คุณต้องเตรียมพร้อมรอบด้าน โดยเฉพาะ สมาธิ สติ ข้อสงสัย คำถาม เป็นสิ่งที่สำคัญ และจำเป็นอย่างมากที่จะทำให้คุณมีความรู้ไปสร้างอาชีพในอนาคต

ฮะเก๋าเกิ่นมาเยอะแล้ว เดี๋ยวจิรำคาญฮะเก๋า ถ้างั้นลุยโล้ดดดดดด

#อ่านเสร็จแล้วแชร์

#แชร์วนไป

#สัมมนาดีดี

1.เลือกสัมมนาที่ต้องการ

ถ้าคุณมีความฝัน หรือความต้องการทำอาชีพใดก็ตาม ให้เลือกสัมมนาที่ตรงกับสายอาชีพนั้น เช่น ต้องการขายของผ่านสื่อออนไลน์ ก็ให้เลือกสัมมนาที่เกี่ยวกับการขายของผ่านสื่อออนไลน์ พร้อมกับลงสัมมนาเสริมด้านการขายของ อย่างการตลาดผ่านสื่อออนไลน์ เป็นต้น เพื่อนำมาปรับใช้กับการขายของผ่านสื่อออนไลน์ ให้มีรายได้มากขึ้น

2.ดูประวัติวิทยากร

วิทยากรที่จะมาให้ความรู้ภายในงานสัมมนาต้องเป็นผู้รู้จริง ผู้เชี่ยวชาญจริง ดังนั้น ต้องศึกษาประวัติการทำงาน ความประสบความสำเร็จในชีวิตเขา และผลงานด้านต่าง ๆ ว่า วิทยากรคนนี้เป็นอย่างไร เหมาะที่จะให้ความรู้กับคุณ เพื่อต่อยอดธุรกิจตัวเองไหม เป็นต้น เพราะคุณมาฟังสัมมนาก็ต้องการมีความรู้ มีอาชีพ และมีเงิน ก็ต้องเลือกดูดีดีหน่อยนะ

3.ดูความสำเร็จของคนที่เข้าฟังสัมมนา

ข้อนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะถ้ามีคนที่เคยไปฟังสัมมนาแล้วออกมาประสบความสำเร็จ ก็จะทำให้น่าเชื่อถือได้อีก โดยให้ดูจากเว็บไซต์ของวิทยากรผู้สอน และค้นหาตามเว็บไซต์ต่าง ๆ รวมถึงสอบถามกับคนที่เคยเข้าฟังสัมมนานั้น ๆ ว่ากลับออกมามีความเปลี่ยนแปลงดีขึ้น หรือแย่ลง ทั้งนี้คนที่จะประสบความสำเร็จได้ต้องเป็นคนที่ลงมือทำจริง อย่างตั้งใจด้วย

4.ดูรีวิวสัมมนา

เชื่อว่า งานสัมมนาเกือบทุกที่ ที่คนเคยไปฟังแล้วผลการตอบรับไม่ดี ต้องมีการเขียนรีวิว หรือระบายความในใจเกี่ยวกับสัมมนานั้นออกมาแน่นอน ดังนั้น จึงกลายเป็นจุดสำคัญเพื่อให้คนที่ยังไม่เคยไปได้เข้ามาศึกษาก่อนไป ฉะนั้นแล้ว ก่อนลงเลือกสัมมนาควรไปดูรายละเอียดตามเว็บไซต์ต่าง ๆ พร้อมหารีวิวทั่วไปว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะได้รู้ว่าคุณควรไปฟังสัมมนานี้หรือไม่

5.ตั้งใจจดรายละเอียดสำคัญ

การจดรายละเอียดที่สำคัญเมื่อเข้าฟังสัมมนา เป็นวิธีที่ดีที่สุด เผื่อเวลาลืมหรือต้องการนำความรู้ส่วนนั้นมาใช้ จะได้หยิบสมุดที่จดขึ้นมาอ่านได้ทันที อีกทั้ง เพื่อเอาประเด็นสำคัญที่จดมาต่อยยอดเข้ากับอาชีพของตัวเอง และสร้างเป็นแผนดำเนินอาชีพของตัวเองในอนาคตด้วย

6.แสดงความคิดเห็นหรือสอบถามเพิ่ม

ทุกคนที่ไปฟังสัมมนาต่างอยากรู้ อยากเห็นในสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่การเข้าฟังสัมมนาเพียงอย่างเดียวใช่ว่าจะตอบทุกข้อสงสัยได้ ดังนั้น สงสัยอะไรให้ถามเพิ่มเติม หรือพยายามแสดงความคิดเห็นส่วนตัวเข้าแทรก ถึงแม้จะถูกหรือผิดก็ตาม เพราะอย่างน้อยก็ช่วยให้ตัวคุณคลายข้อสงสัยได้บ้าง อีกทั้งจะได้รู้ว่า สิ่งที่ตัวคุณคิดเป็นอย่างไร

7.คุยกับวิทยากรนอกรอบ

อย่าเกรงใจที่จะคุยกับวิทยากรนอกรอบ เพราะในเมื่อคุณเลือกสัมมนา และเสียเงินไปแล้ว เขาก็ต้องมีหน้าที่ให้คำปรึกษา ดังนั้น ถ้าคุณคุยเกี่ยวกับสายอาชีพที่ตัวเองกำลังทำ หรือคิดที่จะทำในอนาคต พร้อมทั้ง สอบถามทิศทางความเป็นไปได้เพิ่ม ก็จะทำให้คุณรู้มากขึ้น และสามารถนำมาพัฒนาอาชีพของตัวเองให้ประสบความสำเร้จได้ง่าย ๆ

8.มีความเชื่อ และศรัทธา

ถ้าคุณมีความเชื่อ และศรัทธา ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไรก็จะสำริดผล อย่างเช่น คุณเข้าร่วมสัมมนาหนึ่ง แล้วคุณเชื่อ และศรัทธากับความรู้ ตัววิทยากร และเชื่อมั่นใจว่า ทุกอย่างต้องประสบความสำเร็จ กำลังใจ และแรงใจก็จะมาหาคุณเอง  เพราะถ้าคุณไม่มีความเชื่อ หรือศรัทธาอะไรเลย ก็ยากต่อความสำเร็จ เพราะในสมองจะมีคำถามวนเต็มไปหมดว่า ไม่มีทางเป็นไป กำลังใจก็จะน้อยลง ฉะนั้น การเชื่อหรือศรัทธาไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่เป็นการสร้างกำลังใจ และความหวังให้กับตัวเอง

9.นำความรู้ที่ได้มาวิเคราะห์

ทุกครั้งที่เข้าฟังสัมมนา ควรนำความรู้ที่ได้รับมาวิเคราะห์ เพื่อปรับใช้ในอาชีพของตัวเอง แต่ไม่ใช่ว่า คุณได้ความรู้อะไรมาก็ทำตามไปซ่ะทุกเรื่อง นั่นหมายถึง คุณไม่ได้ใช้ความรู้ตัวเองประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์เลย  เพราะการทำอาชีพคุณเป็นเจ้าของ ถ้าไม่คิดที่จะใช้ความรู้ของตัวเองด้วย อาจเกิดผลกระทบในภายภาคหน้าได้

10.เริ่มต้นลงมือทำอย่างตั้งใจ

คนมีความรู้ แต่ไม่เคยลงมือทำ ก็ไม่สามารถเรียกได้ว่า มีความรู้อย่างแท้จริง ดังนั้น เข้าฟังสัมมนาเสร็จ คิด วิเคราะห์ อย่างรอบคอบ พร้อมลงมือทำ จะผิดหรือถูก จะล้มเหลวหรือผิดหวัง อย่างน้อยก็จะทำให้คุณรู้ช่องทางใหม่ ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงอุปสรรคที่ผ่าน ๆ มาได้ ดังนั้น เมื่อมีความรู้+ประสบการณ์ ต่อไปก็จะเจอกับความสำเร็จในอีกไม่ช้า

11.มีสติ และรอบคอบ

อย่าคลั่งวิชาจนเห็นผิดเป็นชอบ ควรมีสติ และรอบคอบก่อนลงมือทำอาชีพของตัวเอง อย่างคำพังเพยที่ว่า “ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม” หมายถึงการทำอะไรซักอย่างควรจะทำด้วยความรอบคอบ ไม่ต้องรีบร้อน ทำไปแล้วเก็บรายละเอียดดีๆ ก็จะได้ผลงานที่ออกมาดี ซึ่งสามารถนำไปใช้ในชีวิตของตัวเองได้เลย

12.แชร์ประสบการณ์

เคยสงสัยไหม? มีความรู้มากเท่าไหร่ แต่ลงมือทำเท่าไหร่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เมื่อคุณมีโอกาสได้เข้าฟังสัมมนาด้านสายอาชีพของตัวเอง ลองแชร์ประสบการณ์ให้วิทยากรช่วยคิด และแก้ไขดู หรืออาจจะหาเพื่อนร่วมสัมมนาแชร์ประสบการณ์ของกันและกัน เพราะประสบการณ์ของเขา จะทำให้คุณรู้อะไรหลาย ๆ บางทีเพียงจุดเล็ก ๆ ที่คุณมองข้ามมันอาจเป็นจุดใหญ่ที่ทำให้คุณไม่ประสบความสำเร็จก็ได้

13.มีความรู้ ในสายอาชีพนั้น

จะเข้าฟังสัมมนาให้มีอาชีพทั้งที ต้องรู้ใจตัวเองก่อนว่า อยากทำอะไร ชื่นชอบอาชีพด้านไหน แล้วเลือกสัมมนาให้ตรงกับอาชีพของตัวเองมากที่สุด แล้วให้นำความรู้ที่ได้รับมาทดลองใช้กับตัวเอง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

14.ศึกษาหาความรู้ก่อนเข้าสัมมนา

อย่าหวังพึ่งน้ำบ่อหน้าเพียงอย่างเดียว ถ้าคุณต้องการไปฟังสัมมนาให้มีความรู้ สร้างอาชีพ ทำได้ให้กับตัวเอง ก่อนอื่นต้องศึกษาความรู้เบื้องต้นก่อนเข้าสัมมนา เช่น ภายในงานมีหัวข้อการเรียนรู้อะไรบ้าง แล้วให้คุณดูรายละเอียดหัวข้อเหล่านั้น ศึกษาแบบเนิ่น ๆ พอถึงเวลาฟังสัมมนาจริงจะได้ไม่สงสัยอะไรมาก และที่สำคัญ จะได้ซักถามเพื่อเชื่อมโยงเข้ากับอาชีพที่ตัวเองกำลังจะทำได้ง่าย ๆ

15.คิดตามสิ่งที่วิทยากรพูด

การคิดตามในสิ่งที่วิทยากรพูด จะทำให้คุณกระจ่างมากขึ้น เข้าใจง่ายมากขึ้น เพราะเวลาที่คุณลงมือทำจริง สมองจะสั่งการว่าต้องทำอย่างนี้ อย่างนั้นทันที โดยที่คุณไม่ต้องคิดย้อนไปว่าวิทยากรพูดอะไร เพราะทั้งหมดคุณเข้าใจหมดแล้ว ก็ง่ายต่อการนำความรู้มาใช้จริงที่สุด แต่คุณต้องควบคุมสติให้จดจ่อกับสิ่งที่วิทยากรพูดด้วยนะ

16.มีเงินสำรองทำธุรกิจ

จะมีความรู้มากแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีเงินทุกอย่างก็เดินต่อไปได้ยาก หรือมีต้นทุนทำธุรกิจ แต่ไม่มีเงินสำรองก็ไปต่อได้ยากเช่นกัน ดังนั้น เมื่อคุณมีทั้งเงินทุน และเงินสำรอง ก็จะง่ายต่อการดำเนินธุรกิจมากที่สุด ส่วนจำนวนเงินนั้นขึ้นอยู่กับอาชีพที่ตัวเองจะทำว่าต้องใช้ทุนเยอะขนาดไหน

17.มีความรู้เลี่ยง “ความเสี่ยง”

ทุกอาชีพมีความเสี่ยง และสิ่งที่สามารถเลี่ยงความเสี่ยงเหล่านั้นได้คือ “ความรู้” ซึ่งการเข้าฟังสัมมนา นอกจากได้ความรู้แล้ว ยังได้ประสบการณ์จากวิทยากรณ์มาปรับใช้ด้วย แต่คุณต้องอาศัยการคิด วิเคราะห์สถานการณ์ร่วมด้วย เพราะจะได้จับมาเชื่อมโยงกับปัญหาที่อาจเจอในอนาคตของตัวเอง

18.ตั้งเป้าหมาย

การตั้งเป้าหมาย เป็นการวางแผนชีวิตไว้ล่วงหน้า เช่น อนาคตต้องเปิดร้านอาหาร ให้กลายเป็นอาชีพที่มั่นคง มีรายได้เข้ามาเป็นแสน ๆ ล้าน ๆ บาท ถ้าคุณมีเป้าหมายแล้วก็ให้เจาะจงหาความรู้เฉพาะด้าน เช่น เข้าสัมมนาการตลาด สัมมนาเกี่ยวกับบริหารหน้าร้าน หรือดูแลลูกค้าให้พึงพอใจกับสินค้าของตัวเอง เป็นต้น เพราะถ้ามีเป้าหมายที่ชัดเจน ต่อไปจะทำอะไรก็จะง่ายขึ้น

19.มีแผนในใจ

การทำธุรกิจต้องมีแผนหลัก แผนสำรอง และต้องมีแผนในใจ เพื่อเตรียมพร้อมเดินหน้าทุกรูปแบบ ดังนั้น การเข้าฟังสัมมนาให้มีอาชีพ ต้องเลือกสัมมนาที่ตรงตามแผนของตัวเองที่วางไว้ เช่น มีแผนพัฒนาบุคคลากรภายในองค์กร ก็ให้เลือกสัมมนาเกี่ยวกับบริหารงาน เป็นต้น เพราะการมีแผนในใจ คือการมีแผนเดินหน้าธุรกิจในอนาคตให้ประสบความสำเร็จเร็ว ๆ

20.ฟังสัมมนามากกว่า 1 ที่

การฟังสัมมนาเพียงที่เดียว แล้วสรุปง่าย ๆ ทันที เป็นเรื่องที่ผิด เพราะถ้าต้องการความรู้เพื่อมาสร้างอาชีพ และรายได้ให้กับตัวเอง ต้องเข้าฟังสัมมนามากกว่า 1 สัมมนา เพื่อจะได้มีความรู้หลาย ๆ ด้าน เผื่อเวลาเจอปัญหาจะได้หาวิธีแก้ไข และหลีกเลี่ยงได้ถูกต้อง