10 ข้อที่ควรทำ หลังการขาย เพื่อกระตุ้นธุรกิจให้ก้าวหน้า
จัดซื้อ การตลาด การขาย บริการ

จำนวนเข้าชม 54543 ครั้ง

10 ข้อที่ควรทำ หลังการขาย เพื่อกระตุ้นธุรกิจให้ก้าวหน้า

Sponsored
หลักสูตร การพัฒนาพนักงานคลังสินค้าให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

คลังสินค้า (WAREHOUSE) ที่มีประสิทธิภาพนั้น คือ การวางแผนตั้งแต่การออกแบบแผนผังพื้นที่ ...

ดูรายละเอียด
อบรมหลักสูตร Training Roadmap & IDP Based on Competency Class Room

                   วัตถุประสงค์     1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีหลักการ แนวคิดการจัดทำ Trai...

ดูรายละเอียด

ฮัลโหลลลลล หวัดดีแฟนเพจที่น่าร๊ากทุ๊กคนฮ่ะ

 

วันนี้ฮะเก๋ามีความรู้ดีดีมาฝาก กับ “10 ข้อที่ควรทำ หลังการขาย เพื่อกระตุ้นธุรกิจให้ก้าวหน้า”

 

เป็นความรู้โดดๆ ที่ผู้ประกอบการทุกคนควรให้ความสำคัญ เพราะเป็นการบริการหลังการขายที่สามารถสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการซ้ำได้จริงๆ

 

>>วิธีซื้อใจลูกค้าด้วยการบริการหลังการขาย

>>วิธีสร้างความประทับใจให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำ

 

อิอิ แล้วความรู้นี้ยังสามารถนำไปต่อยอดธุรกิจให้มีฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และกำไรมากขึ้นอีกด้วย #แหล่มลอยยยยยย

 

ถ้าอยากรู้ว่าบริการหลังการขายมีอะไรบ้าง โปรดอ่าน!!

 

#เส้นทางทำเงิน

#แชร์วนไป

1.อัพเดทข้อมูลให้ลูกค้าต่อเนื่อง

วิธีอัพเดทข้อมูลให้ลูกค้าต่อเนื่องมีหลายช่องทาง เช่น ส่งทางไลน์กรุ๊ป ข้อความมือถือ หรือส่ง E-newsletter เป็นต้น ซึ่งการอัพเดตข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าทราบความเป็นไปของบริษัท ผ่านกิจกรรมของบริษัท

ตลอดจนรู้จักสินค้าใหม่ๆ ของบริษัททำให้คุณกระตุ้นยอดขาย และปลุกความสนใจของลูกค้าได้อย่างดี เพราะ ที่สำคัญทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า การเข้าไปใช้บริการครั้งนั้น คุณยังไม่ลืมเขานั่นเอง

 

2.ส่งของขวัญแทนใจ

การส่งของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ไปให้ลูกค้าใหม่หรือลูกค้าเก่า แทนคำขอบคุณที่เขาให้ความไว้วางใจเลือกซื้อสินค้าและบริการจากเรา ถือว่าเป็นการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่ใช้บริการ

ไม่ว่าจะส่งของขวัญต้นปี หรือท้ายปี หรือตามเทศกาลสำคัญต่างๆ เพราะของขวัญเหล่านี้ส่งผลให้ลูกค้าจดจำคุณแบบไม่มีวันลืมแน่นอน

 

3.ส่งการ์ดอวยพร

นอกจากส่งของขวัญไปให้ลูกค้าแล้ว คุณยังเลือกวิธีส่งการ์ดให้ลูกค้าตามโอกาสและเทศกาลต่างๆ ได้อีกเช่นกัน อาทิ วันเกิด วันขึ้นปีใหม่ เป็นต้น ซึ่งการบริการหลังการขายนี้สามารถเรียกความประทับใจได้ดีมากเลยทีเดียว

 

4.โทรติดต่อลูกค้า

การโทรศัพท์ติดต่อลูกค้าเป็นอีกหนึ่งช่องทางบริการหลังการขายที่ดีเลิศ เช่น โทรไปสอบถามการใช้งานของตัวสินค้า หรือโทรไปอวยพรตามโอกาสสำคัญต่างๆ เป็นต้น

เพื่อให้ลูกค้ารู้ว่า คุณใส่ใจรายละเอียดตรงนี้ แม้ลูกค้าบางรายจะห่างหายจากการใช้บริการบริษัทคุณนาน ก็ควรโทรทัศน์ไปพูดคุยด้วยเช่นกัน แต่ไม่ควรพูดยาวไร้สาระเกินไป เพราะอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกรำคาญได้

 

5.จัดงานสังสรรค์

อีกหนึ่งบริการหลังการขายที่ดีนั่นก็คือ การจัดงานสังสรรค์ อาจจะเป็นงานครบรอบการก่อตั้งบริษัท งานประจำปี หรืองานปีใหม่ เป็นต้น แล้วเชิญลูกค้าเข้าร่วมงานด้วย เพราะจะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเขาเป็นครอบครัวเดียวกับคุณ แล้วทีนี้ลูกค้าก็ไม่อยากหนีไปใช้บริการจากบริษัทอื่นแน่นอน

 

6.ประกันความพึงพอใจ

การทำประกันสินค้าหลังการขาย เป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าเกิดความน่าเชื่อถือต่อตัวสินค้าและแบรนด์ของคุณ เพราะเมื่อสินค้าชิ้นนั้นเกิดความเสียหาย ลูกค้าจะได้มั่นใจได้ว่า จะมีคนคอยดูแล และช่วยเหลือ

ซึ่งการทำประกันให้กับสินค้า อันดับแรกคุณควรดูคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าชิ้นนั้นด้วยว่า ดีแค่ไหน และเหมาะกับการทำประกันนานกี่เดือน/กี่ปี เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่ออนาคตธุรกิจ และตัวลูกค้าเอง

 

7.เคลมฟรี

ข้อนี้มีความหมายใกล้เคียงกับข้อที่ผ่านมาก แต่ต่างกันตรงที่ว่า “เคลมฟรี” คือรับเปลี่ยนสินค้าคืนเมื่อเกิดปัญหา หรือซ่อมให้ฟรีเมื่อสินค้าเกิดมีปัญหา

เพราะฉะนั้น ไม่ว่าสินค้าที่ลูกค้าซื้อไปจะเกิดปัญหาใดๆ ก็ตาม ลูกค้ามีสิทธิ์เปลี่ยนสินค้าชิ้นเก่าเป็นชิ้นใหม่ทันที และบริการหลังการขายนี้ เรียกได้ว่า ได้ใจลูกค้าไปเต็มๆ เลยทีเดียว

แต่คุณก็ต้องมั่นใจในตัวสินค้าด้วยว่า มีคุณภาพและมาตรฐานมากพอ พร้อมทั้ง ต้องกำหนดระยะเวลาที่สามารถเคลมฟรีอีกด้วย ไม่เช่นนั้น ลูกค้าใช้สินค้าไป 2 ปีก็เอากลับมาเคลมฟรีได้นะซิ

 

8.ติดตามผลและการให้บริการ

นักขายสมัยใหม่ ต้องมีหัวใจเรื่องการติดตามผลและการให้บริการ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการสสร้างฐานหรือเครือข่ายของลูกค้า และเพิ่มยอดจำหน่ายให้แก่ธุรกิจ

โดยหลังจากพนักงานขายสินค้าให้ลูกค้าไปแล้ว ต้องมีการติดตามผล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจให้แก่ ลูกค้า

ซึ่งเทคนิคของการติดตามผลหลังการขาย ได้แก่ การส่งมอบผลิตภัณฑ์ การติดต่อทางโทรศัพท์ การติดต่อทางไปรษณีย์ แวะเยี่ยมเยียน การอวยพรในเทศกาลพิเศษ ร่วมงานสำคัญๆ ของลูกค้า และการสร้างข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม

 

9.เช็คสภาพสินค้า

เมื่อลูกค้าตกลงที่จะซื้อสินค้าชิ้นนั้น นักขายที่ดีต้องเช็คสภาพสินค้าทุกครั้งก่อนชำระเงินด้วยว่า สินค้าชิ้นนั้นใช้งานได้ 100% เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในการบริการและสินค้าของคุณ โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือสื่อสารต่างๆ เป็นต้น

 

10.ส่งของให้ฟรี

บริการหลังการขายของสุดท้ายนี้คือ ส่งสินค้าให้ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ถือว่าเป็นการสร้างความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า ที่สำคัญทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจและอยากสั่งสิ้นค้าชิ้นต่อๆ ไปอีก แต่ทั้งนี้คุณต้องกำหนดระยะทางในการส่งสินค้าด้วย ไม่เช่นนั้นขาดทุนแน่นอน

 

เคล็ดลับโค้ชฝากบอก ดูเคล็ดลับทั้งหมด »