หลายคนถูกหล่อหลอมด้วยกรอบความคิดเล็กๆ และหลายคนอาจเป็นหมากตัวหนึ่งที่มีคนคอยชักนำอยู่เบื้องหลัง ซึ่งการตกอยู่ในภวังค์แบบนี้ ทำให้หลายคนอาจจะรู้สึกอึดอัดและมีความกดดันไม่มากก็น้อย นำมาซึ่งการใช้ชีวิตที่ไม่ค่อยมีความสุขในแบบที่ตัวเองต้องการ แล้วคุณล่ะใช้ชีวิตประจำวันอยู่ในกรอบของใคร ได้เป็นตัวของตัวเองแล้วหรือยัง!!

มีคนจำนวนไม่น้อยที่ใช้ชีวิตโดยการถูกปิดกั้นความเป็นอิสระทางความคิดอยู่ภายใต้การดูแลของคนอื่น ตัวอย่างเช่น เป็นลูกน้องทำงานอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของนายจ้าง บางครั้ง เราไม่สามารถเลือกที่จะเป็นในแบบที่เราต้องการได้เสมอ แต่วันหนึ่งเราจะสามารถสร้างอิสระทางความคิดได้ แต่จะดีหรือไม่!! ถ้าเราสามารถมีอิสระทางความคิดที่สามารถเปลี่ยนชีวิตด้านลบให้กลายเป็นบวกได้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของอาชีพการงาน การดำรงชีวิต และการทำชีวิตให้มีความสุขของมากขึ้นเรื่อยๆ

คติเตือนใจอิสระทางความคิดที่ใครๆ ก็เป็นได้

 1 เงินสามารถซื้อคุณได้ แต่เงินไม่สามารถซื้อความรู้ที่อยู่ในสมองคุณได้

 2 ถึงวันนี้เราเป็นผู้ต่ำต้อย แต่วันหน้าต้องเป็นใหญ่ให้ได้ ด้วยความคิดและความสามารถตัวเอง

 3 อย่าให้ความฉลาดถูกกักเก็บอยู่แค่ในสมองเพียงเพราะน้ำมือของคนอื่น

 4 ทุกคนมีอิสระทางความคิด แต่ไม่มีอิสระที่จะใช้มันทุกเรื่อง

 5 เหนื่อยหน่อยนะที่ต้องเดินตามรอยเท้าคนอื่น แต่มันจะสบายกว่านะถ้าเราสร้างรอยเท้าของตัว

จริงอยู่ที่ว่า… ทุกคนมีอิสระทางความคิด แต่ไม่สามารถใช้ชีวิตแบบอิสระตามใจตนเองได้เสมอไป ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะโอกาสของชีวิตไม่เอื้ออำนวย ต้นทุนชีวิตไม่เท่ากัน แต่ไม่ว่าคุณจะตกอยู่ในสถานะไหนที่ไม่สามารถสร้างอิสระทางความคิดได้ สิ่งหนึ่งที่คุณทำได้ก็คือ การเป็นตัวของตัวเองไปพร้อมกับค้นหาตัวเองด้วยอิสระทางความคิดอย่างมั่นคง

สำหรับคนที่ทำงานเป็นลูกจ้างภายใต้กฎเกณฑ์ของนายจ้างคุณก็สามารถที่จะใช้ความคิดของตัวเองเพื่อสร้างความเป็นใหญ่ได้เช่นกัน แต่บางครั้งอาจต้องก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวังโดยไม่ทิ้งชีวิตของวันนี้ให้เป็นอดีต และเราสามารถทำวันนี้และวันข้างหน้าเป็นอนาคตที่สวยงามได้

 คำคมอิสระทางความคิดขยายกรอบเล็กๆ ให้มีค่ามากขึ้น

 1 วันนี้เราเป็นลูกจ้าง...เงินทุกบาทจากหยาดเหงื่อ ต้องอยู่ครบทุกบาท ทุกสตางค์

 2 เราไม่สามารถก้าวกระโดดไปหาอนาคตได้ แต่เราสามารถพยายามเดินไปหาอนาคตได้

 3 ชีวิตทุกคนไม่ได้ต้อยต่ำ แต่ทุกคนมักลดคุณค่าในตัวเอง

 4 วันนี้เราอยู่ในกรอบของคนอื่น แต่วันข้าวหน้าเราสามารถแหกกรอบของเขาได้

 5 ชีวิตเป็นของเราเพียงแค่เรารู้จักทำชีวิตให้มีค่า ความสุขที่ต้องการก็อยู่แค่เอื้อม

 เพราะฉะนั้นเราต้องรู้จักใช้อิสระทางความคิดให้เป็นประโยชน์แบบถูกที่ถูกเวลา แล้วสิ่งที่ทุกคนปรารถนาจะบรรลุเป้าหมายไปด้วยดี แต่เมื่อชีวิตของเรา ณ ตอนนี้เป็นแบบนี้ เราไม่สามารถที่จะหักเหชีวิตเพื่อเปลี่ยนทิศทางให้ดีขึ้นแบบเฉียบพลันได้ นอกเสียจากต้องค่อยเป็นค่อยไป ดำรงชีวิตอยู่ในพื้นฐานความพอดี ทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้ววันข้างหน้าจะต้องสดใสกว่าที่ผ่านมาแน่นอน