มาแว้ว ๆ ฮะเก๋ามาแว้ว #หวัดฮับ

วันนี้เอาความรู้มาฝาก…สำหรับมือใหม่ทุกคนที่อยากลงทุนธุรกิจให้ได้เงินล้าน #แหล่มลอยยยยยย เพราะสิ่งสำคัญคุณต้องมีความรู้+ประสบการณ์ และก็สามารถฝึกได้ด้วยตนเอง #ตบมือสามที

ฉะนั้น “20 วิธีหาความรู้ก่อนการลงทุนให้ได้เงินล้าน” เป็นฉบับเบื้องต้น ถึงวิธีเริ่มต้นสร้างความรู้และความเข้าใจให้แก่ตัวเอง อีกทั้ง “ไม่มีใครประสบความสำเร็จโดยที่ไม่มีความรู้” และ “ไม่มีใครรวยได้เพราะไม่มีความรู้” คมมั้ยฮ่ะ!! ฮะเก๋า เก๋าสมชื่อไหมล่ะ

พร้อมแล้ว ไปอ่าน 20 ความรู้ที่ฮะเก๋าเอามาให้กันดีกว่า

#แหล่งความรู้ก่อนลงทุน

#บอกต่อขอให้รวย

#สัมมนาดีดี

1.รู้จักตัวเอง

ก่อนลงธุรกิจให้ได้เงินล้าน ต้องทำความเข้าใจกับตัวเองว่า สิ่งที่ตัวเองถนัดคืออะไร? อยากทำอะไร? แล้วสิ่งที่คิดจะเป็นสิ่งที่ใช่หรือไม่ เพราะถ้าทำธุรกิจไปทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่ถนัดหรือไม่มีความชอบเลย ไม่มีทางไปรอดแน่นอน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ความรู้สึกเบื่อ และไม่อยากทำก็จะเข้ามาหาคุณสักวัน

2.ตั้งเป้าหมาย

การตั้งเป้าหมายนั้นง่ายมาก แต่จะทำให้สำเร็จ ต้องมีทั้งความรู้ และประสบการณ์ ดังนั้น ลองไปศึกษาหาความรู้ และประสบการณ์จากผู้ที่ประสบความสำเร็จมาก่อนหน้าคุณว่า เขาทำอย่างไร? มีวิธีอะไร? และเจอปัญหาอะไรมาบ้าง? ถึงประสบความสำเร็จได้ถึงทุกวันนี้

3.ศึกษาความเสี่ยง

คนที่รู้ตัวว่า ต้องการทำธุรกิจอะไร จะประเมินได้ทันทีว่า ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับธุรกิจที่กำลังจะทำในอนาคตคืออะไร แล้วให้เรียนรู้ พร้อมทั้งหาแนวทางป้องกันและแก้ไขไว้ล่วงหน้า เพื่อเป็นแผนรองรับความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจโดยตรง

4.เรียนรู้เครื่องมือ

เครื่องมือ ณ ที่นี้ คือเครื่องมือที่ใช้สำหรับทำการตลาด เรียกลูกค้า และสร้างยอดขาย ไม่ว่าจะเป็นสื่อออนไลน์ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุ สื่อกลางแจ้ง เป็นต้น ถ้าคุณรู้จักวิธีการใช้เครื่องมือเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์ และเกิดคุณค่าแก่ธุรกิจของคุณ รับรองรายได้และลูกค้าเข้ามาจำนวนมากแน่นอน

5.ประเมินผลตอบแทน

ธุรกิจที่คุณกำลังจะสร้างขึ้นมานั้น คิดว่าจะมีผลตอบแทนมากน้อยแค่ไหน ซึ่งถ้าคิดเองเออเองว่า ธุรกิจตัวเองดี แต่คนอื่นกลับรู้สึกเฉย ๆ ให้มานั่งประเมินใหม่ได้เลย พร้อมทั้ง หาธุรกิจที่ลงทุนแล้วได้ค่าตอบแทนมากกว่าธุรกิจเก่า

6.หาผู้เชี่ยวชาญ

นักธุรกิจมือใหม่ทุกคนควรหาผู้เชี่ยวชาญไว้คอยให้คำปรึกษา เพื่อเป็นแนวทางในการทำธุรกิจส่วนตัว ถ้าคุณลงทุนทำธุรกิจโดยตัวคนเดียวไม่มีที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เวลาเจอปัญหาอาจจะหาทางออกไม่เจอ ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นตำราความรู้ชั้นเลิศที่จะทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ อีกทั้ง ยังช่วยลดระยะเวลาในการหาข้อมูล เพื่อเตรียมธุรกิจอีกด้วย

7.เรียนรู้ความเสี่ยง

การหาความรู้จากความเสี่ยง เพื่อเตรียมพร้อมรับความเสี่ยงของตัวเอง ซึ่งแหล่งการเรียนรู้ที่ดีคือ ลองไปเป็นลูกจ้างอยู่ใกล้ชิดกับงานบริหารธุรกิจของเจ้านาย พร้อมเรียนรู้ความเสี่ยง และวิธีแก้ไขความเสี่ยงนั้น เพื่อนำกลับมาประยุกต์ใช้กับตนเอง

8.เรียนรู้จังหวะลงทุน

วิธีการศึกษาหาความรู้ พร้อมหาจังหวะการลงทุนให้ดูจาก สภาพแวดล้อม และสังคมปัจจุบันว่า สภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันนั้นเอื้ออำนวยมากน้อยแค่ไหน แล้วถ้าลงทุนไปตอนนี้ อัตราลูกค้า และกำลังซื้อของเขาจะมีจำนวนมากแค่ไหน โดยดูความเป็นไปได้รอบตัว และถ้าธุรกิจที่คุณกำลังลงทุน กระแสหรือเทรนด์เริ่มลดลง ก็อย่าลงทุนเลยดีกว่า

9.เรียนต่อเฉพาะทาง

หากคุณสนใจธุรกิจด้านนี้ แล้วมีคอร์สลงเรียน ให้ตัดสินใจลงเรียนเลย เพราะว่าจะได้ช่วยเพิ่มความรู้ และทักษะของตัวเอง เพื่อนำมาใช้จริงให้เกิดประโยชน์สูงสุด

10.เข้าอบรมสัมมนา

งานสัมมนาต่าง ๆ ที่มีการเปิดสอนทางด้านธุรกิจที่คุณกำลังจะทำ หรือเป็นสัมมนาที่สามารถต่อยอดธุรกิจในอนาคตได้ ให้เลือกเรียนเลย เพราะนอกจากจะได้ความรู้จากการเรียนแล้ว ส่วนใหญ่วิทยากรเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จมาก่อนหน้าคุณ เพื่อมาเป็นที่ปรึกษาให้คุณด้วย

11.หาความรู้จากอินเทอร์เน็ต

เทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้นส่งผลให้ชีวิตประจำวันมนุษย์เปลี่ยนไป และหนึ่งในนั้นคือ สื่อออนไลน์ที่สามารถคลายข้อสงสัยให้คุณได้แทบทุกอย่าง จึงกลายเป็นช่องทางยอดนิยมสำหรับนักลงทุนทุกคนที่ต้องการหาความรู้เพื่อทำธุรกิจส้วนตัวให้ประสบความสำเร็จ

12.หาความรู้จากกลุ่มลูกค้า

การเลือกหาความรู้จากกลุ่มลูกค้าโดยตรงถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะนอกจากคุณจะได้รู้ถึงความต้องการของเขาแล้ว ยังสามารถนำมาพัฒนาสินค้าของตัวเองให้ดี ตรงความต้องการของเขาได้มากที่สุดอีกด้วย

13.เรียนรู้การเก็บเงิน

เงิน เป็นปัจจัยสำคัญของการลงทุน เพราะถ้าคุณไม่มีเงินส่วนตัว หวังพึ่งธนาคารเพียงอย่างเดียวคงไม่ใช่ทางออกที่ดี ถ้าหากธุรกิจที่คุณทำไปไม่รอดตัวคุณเองแหละที่จะต้องแบกรับหนี้สินก้อนโต แถมยังไม่มีเงินหมุนเวียนดำเนินธุรกิจต่ออีกต่างหาก ดังนั้น วิธีเก็บเงินที่ดีอาจจะหาข้อมูลจากทั่ว ๆ ไป หรือเข้าปรึกษาถึงวิธีการเก็บเงินโดยตรงก็ได้

14.ทำรายรับรายจ่าย

การเรียนรู้เรื่องทำตารางรายรับรายจ่าย ไม่จำเป็นต้องไปสมัครเรียนให้เสียเวลา เพียงแค่คุณคำนวณรายได้ที่ได้รับ รายจ่ายที่ต้องเสียไป และยอดเงินคงเหลือในแต่ละวัน/เดือน พร้อมทั้งคำนวณความจำเป็นของรายจ่ายว่าสิ่งไหนที่ตัดได้ควรตัด และขยันหารายได้เพิ่มเพื่อให้มีเงินเก็บลงทุนธุรกิจในอนาคต

15.ตีโจทย์ให้แตก

ตีโจทย์ให้แตก คือ การแก้ไขปัญหา หรือการทำธุรกิจให้กลุ่มเป้าหมายนิยมใช้บริการของคุณ ดังนั้น แหล่งข้อมูลชิ้นสำคัญคือ กลุ่มเป้าหมาย และคนที่ประสบความสำเร็จ ไปสอบถามข้อมูลพร้อมแลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อหาแนวทางมาตีโจทย์ธุรกิจที่คุณกำลังจะทำให้แตก เพื่อรายได้และกำไรที่มากขึ้นในอนาคต

16.เรียนรู้จากคู่มือการลงทุน

หนังสือเกี่ยวกับคู่มือการลงทุนปัจจุบันมีเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น คู่มือการลงทุนหุ้น คู่มือการลงทุนร้านอาหาร คู่มือการลงทุนร้านไอศกรีม เป็นต้น ซึ่งคุณสามารถหาซื้อมาอ่านได้ตามร้านขายหนังสือทั่วไป และก็เป็นแหล่งความรู้การลงทุนธุรกิจที่ดีมากเลยทีเดียว

17.วางแผนเงินลงทุน

เงินลงทุน มีความจำเป็นสำหรับนักธุรกิจทุกคนเป็นอย่างมาก ดังนั้น อย่าหวังแค่ลงทุนเพื่อให้มีธุรกิจและดำเนินต่อไปได้ คุณควรวางแผนเงินลงทุนเหล่านี้ด้วย เช่น ให้ระยะเวลาคืนทุนกี่เดือน กี่ปี วิธีเร่งสร้างรายได้เพื่อได้ทุนคืน เป็นต้น พร้อมทั้ง แบ่งเงินทุนไว้ใช้ในยามฉุกเฉินด้วย

18.ติดตามข่าวสาร

การติดตามข่าวสารเพื่อดูว่าเทรนด์หรือกระแสปัจจุบันเป็นอย่างไร เป็นสิ่งที่ดี เพราะหากคุณลงทุนไปโดยไม่ตามข่าวสารเศรษฐกิจ สังคม บ้างเมือง ถึงผลกระทบณ ตอนนี้ มีหวังลงทุนไปเสียเปล่าแน่นอน

นอกจากนั้น ปัจจุบัน โลกมีการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างรวดเร็ว ดังนั้นการติดตามข่าวสารจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะถ้าคุณไม่รู้ข่าวสาร การเปลี่ยนแปลง คุณก็จะปรับเปลี่ยนนโยบายในการทำธุรกิจไม่ทันตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

19.เข้าใจประเภทธุรกิจ

ทุกธุรกิจสามารถแบ่งประเภทได้ เช่นร้านนมสด เป็นธุรกิจประเภทเครื่องดื่ม,ร้านลูกชิ้น เป็นธุรกิจประเภทอาหาร เป็นต้น ซึ่งคุณต้องสามารถแบ่งได้ว่าธุรกิจคุณเป็นประเภทใด แล้วกลุ่มลูกค้าคือใคร ให้เจาะตลาดนั้นโดยตรง หากลุ่มลูกค้าหลัก และกลุ่มลูกค้ารอง ถ้าสะเปะ สะปะ ธุรกิจคุณก็ไม่มีทางไปไหนได้ไกล

20.เรียนรู้เทคนิคการขาย

เรื่องการขายเป็นอะไรที่สำคัญมากสำหรับธุรกิจทุกประเภท ซึ่งแหล่งเรียนรู้ที่ดีคือ ลองไปหาประสบการณ์จากการเป็นลูกค้าขายสินค้าทั่วไปดู พร้อมทั้งประเมินลูกค้าที่ผ่านไปผ่านมาว่าเขาสนใจหรือไม่อย่างไร และจะหาวิธีอะไรเพื่อเรียกลูกค้าให้เข้ามาซื้อสินค้าของคุณ