ค้นหาโอกาสหลังวิกฤต (Covid 19)
อบรมสำหรับองค์กร

จำนวนเข้าชม 1776 ครั้ง

ค้นหาโอกาสหลังวิกฤต (Covid 19)

Sponsored
หลักสูตร การบริหารจัดการ การควบคุมแมลงและ สัตว์พาหะนำโรค (PEST Control and Management)

หลักการและเหตุผล     สัตว์รบกวนและสัตว์พาหะนำโรคที่พบบ่อยอย่างเช่นหนูและแมลงสาบนั้นสามา...

ดูรายละเอียด
การบริหารจัดการคลังสินค้าและลดต้นทุนสินค้าคงคลังด้วยหลักการไคเซ็น (Warehouse Management and Inventory Cost Reduction with Kaizen)

หลักการและเหตุผล      การบริหารจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management) เป็นการจัดการในก...

ดูรายละเอียด


ค้นหาโอกาสหลังวิกฤต (Covid 19)

จากบทสนทนาของ คุณ ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) กับคุณสุทธิชัย ในรายการ Suthichi Live รายการนี้บันทึกไว้เมื่อวันที่ 16 Apr 2020


ในหัวข้อการสนทนานี้ใช้ชื่อว่า ผ่าวิกฤต Covid-19
https://www.youtube.com/watch?v=fNm0EcyCc_c


สถานการณ์การระบาดของโควิด 19 เกิดมาร่วม 4 เดือนแล้ว มันเริ่มมีการระบาดที่จีน เมื่อปลายเดือนธันวาคมของปี 2562 และเริ่มขยายตัวออกมาเอเชียในเดือน มกราคม-กุมภาพันธ์ และระบาดไปทั่วโลกในเดือนมีนาคม และยังมีทีท่าว่าจะจบ ลงเมื่อไหร่ !!

มันได้สร้างความปั่นป่วนไปทั่วโลก เพราะเจ้าโควิด 19 มันไม่ได้ แค่ฆ่าชีวิตคนเท่านั้น มันทำให้คนออกมาจากบ้านไม่ได้ นั้นก็เท่ากับ ว่า ธุรกรรม ธุรกิจ ทั้งหมดต้องหยุดชงัก

ข่าวสารจากทุกมุมโลก ทำให้เห็นว่าทุกประเทศก็ประสบปัญหา เหมือนๆกัน เมื่อผู้คนถูกบังคับให้ต้องกักตัวอยู่บ้าน อาหารการกิน เริ่มขาดแคลน มีธุรกิจเริ่มปิดตัว ผู้คนต้องตกงาน แน่นอนในเมืองไทย ก็เป็นเหมือนกัน


สถานการณ์โควิด 19 ก็ทำให้คนไทยทั้งประเทศ มีความกังวลสงสัย เกี่ยวกับอนาคตของตัวเองอย่างมาก ไม่ว่าคุณจะอยู่ในฐานะอะไร ที่เป็นลูกจ้าง หรือ คนที่ทำอาชีพอิสระ หรือเป็นเกษตรกร หรือคุณ จะเป็นเจ้าของธุรกิจ คนเล่นหุ้น คนที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

ทุกกลุ่มที่ว่ามานี้ ไม่สามารถกำหนดอนาคตของตัวเองได้เลย ว่าธุรกิจจะเปลี่ยนไปอย่างไร !! จะรับมือมันอย่างไร !!

แค่คาดการว่าการระบาดจะจบได้เมื่อไหร์ ก็ยังยากที่จะทำนายเลย !! แล้วหลังจากนี้ชีวิตจะเปลี่ยนไปอย่างไร !!


ผมได้ก็พยายามค้นหาแนวคิด ที่คิดว่ามันน่าจะมีเป็นประโยชน์ สำหรับการรับมือกับโควิด 19 ก็ขอนำเอาบทสนทนาของ คุณ ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) กับคุณสุทธิชัย ในรายการ Suthichi Live มาแนะนำกันครับ

(ผมเชื่อว่าแนวคิดนี้ ของคุณธนินท์นี้ จะได้ถึงท่านนายกประยุทธ์ ในฐานะที่ท่านได้รับเชิญ เข้าร่วมกลุ่มที่จะมาให้คำแนะนำ โดยท่านเป็น 1 ใน 20 ของมหาเศรษฐีของไทย)


เพื่อให้สะดวกผมก็เลยสรุปมาเป็น 12 ข้อให้อ่านกันครับ มันเป็นแนวคิดน่ะครับ มันไม่ใช่สูตรสำเร็จ อย่างไรก็ตาม วิธีคิดแบบ Positive thinking มันเป็น แนวคิดที่ทรงพลังเสมอ


เมื่อเราต้องต่อสู้กับสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมอย่างเจ้าโควิด 19 เรามีแต่ต้องปรับตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์ (ADAPTABILITY)

เราจะคิดและทำแบบเดิมๆไม่ได้แล้ว จนเดี่ยวนี้ได้มีคำศัทพ์ใหม่ๆ เพื่อรองรับกับสถานการณ์โควิด 19 ที่เรียกว่า NEW NORMAL

ทั้ง 12 ข้อนี้ แม้ว่ามันจะเป็นภาพใหญ่ไปบ้าง แต่เมื่อคุณได้ฟัง และอ่านมัน คุณจะได้รู้ว่า โอกาสที่ยิ่งใหญกำลังรอเราอยู่ !!


ผมได้เอาประเด็นที่คุณธานินท์ ได้พูดไว้มาทำเป็นหัวข้อ และเพิ่มเติม ไอเดียประกอบเข้าไป หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ


1.วิกฤตจะเกิดขึ้นอีก และจะบ่อยขึ้น : เชื่อได้ว่าจริง เพราะคนไทย เคยได้รับผลกระทบกับตัวเองมาแล้ว ได้แก่ วิกฤตเศรษฐกิจ (ต้มยำกุ้ง) / วิกฤตซูนามิ / วิกฤตน้ำท่วมปี 54 / วิกฤตภัยแล้ง / วิกฤตไฟป่า และวิกฤตจากโควิท 19 ทั้งหมดนี้ นับจากปีพ.ศ 2540 และทุกครั้งที่เกิดวิกฤตจะมีคนได้รับโอกาสเสมอ !!

ดังนั้น Mindset ที่จะต้องใช้ชีวิตอย่างรอบคอบ ระมัดระวัง จะต้องมี และอย่าลืมรับโอกาสที่จะมาหลังจากวิกฤตด้วย !!


2. โลกจะเปลี่ยนไปจากเดิม : แน่นอนในช่วงต้นๆของการคลาย ตัวจากการระบาดของโควิด 19 ผู้คนจะยังใช้ชีวิต อย่างระมัดระวัง การเดินทาง การกินอยู่ มันจะไม่เหมือนเดิม ทุกคนจะพยายาม พีงตัวเองมากขึ้น อยู่กับตัวเองมากขึ้น

การพื้นตัวของเศรษฐกิจ จะค่อยเป็นค่อยไป และจะมีกรอบความคิด ใหม่ครอบคลุมอยู่ ที่เราเรียกว่า new normal (ในความคิดผมเศรษฐกิจจะพื้นกลับมาได้เร็วได้มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับการคิดค้นวัคซีคได้สำเร็จเมื่อไหร่)

ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้ก็คือ การเตรียมตัวให้พร้อมกับโลกที่เปลี่ยนไป


3. วิถีชีวิตของผู้คนจะเปลี่ยนไป : ตามข้อ 2 แน่นอนวิถีชีวิต จะปลี่ยนไป และแบบไหน !! เราก็น่าจะคาดการได้ในระดับหนึ่ง เช่น รูปแบบการทำงาน การค้าขาย จะใช้การสื่อสารผ่าน Online มากขึ้น / อุปกรณป้องกัน การติดเชื้อ จะยังได้รับความนิยมและวิธีการจ่าย ชำระค่าสินค้า และหน้าร้านจะมีสำคัญน้อยลง และอื่นๆอีกมากมาย

ดังนั้นคุณต้องตอบสนองกับลูกค้า ที่มีวิถีชีวิตใหม่ ที่เรียกว่า New Normal ให้ได้


4. ไทยสามารถเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของโลกได้ : รอบๆประ เทศไทย (ในรัศมีที่บินไปแค่ 4 ชั่วโมง) เรามีโอกาสจากจำนวน ผู้คนที่มีมากถึง 3000 ล้านคน (แค่จีน + อินเดีย ก็ 2000 กว่าล้านคนเข้าไปแล้ว) เราบอกคนทั้งโลกได้ว่า เราคือ ศูนย์กลาง อย่างแท้จริง เรามีเกือบทุกอย่าง ที่คนอื่นไม่มี ภัยธรรมชาติ น้อยมาก ผู้คนที่น้ำใจ สถานที่ท่องเที่ยวที่พร้อม การแพทย์ที่ดีเยี่ยม สาธารณูปโภค พื้นฐานที่พร้อม (ระบบขนส่ง น้ำประปา ไฟฟ้า)

ดังนั้น การมองเห็นโอกาสนี้ ถึงแม้จะดูไกลตัวไป แต่มันก็สร้างพลัง ใจที่จะสู้ต่อไปในอนาคต


5. ต้องสร้างคน หรือ ดึงคนเก่งเข้ามา : คนคือทุกสิ่ง ทรัพยากร ที่สำคัญที่สุด ขององค์กร หรือของชาติ ก็คือ คน เพราะคนคือ ผู้สร้าง ผู้กำหนด ผู้ปฏิบัติ ให้เกิดกับองค์กรนั้นๆ

ดังนั้น องค์กรของคุณจะอยู่รอดต่อไปได้ หรือไม่ !! ก็ขึ้นอยู่กับ คนที่คุณมีอยู่นั้นล่ะ


6.สุขอนามัย คือเรื่องสำคัญ : ผู้คนจะสนใจเรื่องสุขอนามัยมากขึ้น และทุกธุรกิจ ต้องตอบสนอง เรื่องสุขอนามัย ให้ได้เช่น การหีบห่อ การส่งมอบ การผลิต ในอุตสาหกรรมอาหาร รวมถึง การบริโภค อาหารที่ดี

ดังนั้น การคิดค้น สินค้าและบริการ เพื่อตอบสนองความต้อง การด้านสุขภาพ จะมีโอกาสมาก


7. ธุรกิจเพื่อสุขภาพ คือจุดแข็งของไทย : โลกทั้งโลกได้ยอมรับ ไปแล้วว่า ประเทศของเรามีการแพทย์ และสาธารณสุขที่ยอดเยี่ยม ตอนนี้ก็แค่สร้างให้มันเป็นธุรกิจ

ดังนั้น รัฐบาลมีงานที่ต้องทำ ส่วนภาคธุรกิจ ตั้งแต่การเครื่อนย้าย การขนส่ง การบริการ ที่พัก การแพทย์ ต้องสอดประสานกันให้ เกิดเป็นธุรกิจขึ้นมา


8. ในสภาวะที่ไม่ปกติ ต้องแก้ด้วยวิธีที่ไมปกติ : เราต้องไม่ปกป้อง ความล้าหลัง นี่เป็นวาทะที่ยอดเยี่ยม และแนวคิดนี้จะช่วยให้เรา แก้ปัญหาให้เร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น และนี่เป็นจะเป็นโอกาส ที่จะล่ะทิ้งสิ่งเก่าๆ ที่ไม่สร้างสรรค์

ดังนั้น ถ้าเรามีปัญหาที่มันใหญโตมาก เราจะใช้การวิธีการแก้ปัญหา แบบเดิมคงไม่เหมาะ ต้องยอมรับวิธีที่ short cut เพื่อแก้ปัญหา แบบเร่งด่วนให้เกิดขึ้น


9. มุมมองการแก้ปัญหา ต้องมองยาวๆ :ถ้าปัญหามันใหญ่มาก ต้องคิดให้ไกล และครอลคลุม ไม่อย่างนั้น มันจะกลายเป็น วิธีที่ไม่ได้ผล ปัญหาของการใช้เงิน คือ ถ้าเรามองหนี้สินเป็นภาระ เราจะไม่อยากจะทำอะไรกับมัน แต่ถ้าเรามองมันเป็นเครื่องมือ เราก็แค่นำมันมาใช้ !!

ดังนั้น แนวคิดการกู้เงิน ในปริมาณที่มาก และผ่อนส่งระยะยาวๆ นั้น ก็น่าคิดและนำมาใช้ได้


10. สำคัญที่สุด คือภาพลักษณะทางการเงินของเรา : ต่อเนื่องจาก
ข้อ 9 เลย เมื่อเรามีเงินกู้ที่มากพอที่จะดูแล ระบบเศรษฐกิจของ เราให้ไม่มีปัญหาได้ ก็เท่ากับรักษาภาพลักษณะของเราไว้ได้ด้วย เพราะถ้าต่างชาติมองประเทศเราว่า มีปัญหาทางการเงิน และทาง เศรษฐกิจ เราก็จะไม่ได้รับการลงทุนจากต่างประเทศอย่าง ที่เราต้องการ

ดังนั้น การดูแลภาพลักษณะทางการเงินของประเทศ หรือขององค์ กรธุรกิจ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง


11. ควบคุมสถานการณ์ให้ได้ : สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ในขณะนี้ ก็คือการควบคุมสถานการณ์ ไม่ให้โรคระบาดออกไป และยังต้องดูแล ไม่ให้มีผลกระทบด้านเศษรฐกิจอีกด้วย

ดังนั้น สิ่งที่องค์กรธุรกิจต้องทำเหมือนกัน ก็คือ สื่อสารและจัดการ ให้ธุรกิจ ให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ หรือหยุดพักเพื่อเดินต่อ แน่นอนคนและเครื่องมือ ยังอยู่และพร้อมที่ไปต่อกับคุณ


12. สร้าง Thailand Brand ให้คนทั้งโลกรับรู้ : นอกเหนือจาก การมีภาพลักษณะทางการเงินที่เข็มแข็ง และการสร้างธุรกิจเพื่อ สุขภาพให้เกิดขึ้นแล้ว เราก็ควรสร้าง Thailand Brand ให้เกิดด้วย ว่าประเทศเรามีความโดดเด่นในเรื่องอะไร เพื่อให้ทั่วโลก เขาเชื่อถือ และยอมรับ

ดังนั้น การมี Thaialnd Brand จะช่วยให้เราเข้าสู่มาตราฐานที่สูง มากขึ้น และเป็นการสร้างความได้เปรียบให้เหนือกว่าคู่แข่งได้


THX : Picture from Focus asia
---------------------------------------------------------------------------------

by Anant vachiravuthichai (Tangram Strategic Consultant)

#principle4biz #tangram
#professionalpurchasing #Internationaltrade
#codevelop #parttimegm
#covid19
---------------------------------------------------------------------------------

เคล็ดลับโค้ชฝากบอก ดูเคล็ดลับทั้งหมด »

วิทยากรด้าน อบรมสำหรับองค์กร ดูวิทยากรทั้งหมด »