หลักการ เหตุผล และรายาละเอียดโครงการ

         “ทำงานแล้วได้อะไรนอกจากค่าจ้าง?” คำพูดนี้อาจกลายเป็นประโยคยอดฮิตและคำถามที่ค้างคาใจลูกจ้างหลายคนว่าเมื่อตนได้ทำงานกับนายจ้างรายหนึ่งแล้ว ตนจะได้สิทธิประโยชน์ทางกฎหมายอะไรเพิ่มเติมหรือไม่จากนายจ้าง หรือได้รับเฉพาะแต่ค่าจ้าง ซึ่งก็ทำให้ลูกจ้างต้องวางแผนในการใช้เงิน เก็บออม เพื่อไว้ใช้ในยามจำเป็นโดยเฉพาะในยามป่วยไข้ ซึ่งในอันที่จริงแล้ว สิทธิในเงินทดแทน และสิทธิในการประกันสังคม ถือเป็นสิทธิที่กฎหมายรับรองให้กับลูกจ้างเพิ่มเติมไปกว่าค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับ ดังนั้นลูกจ้างตามกฎหมายไทยจึงไม่จำเป็นตัวกลัวว่าตนจะไม่มีเงินในการจ่ายค่ารักษาพยาบาลในยามที่ตนเองเจ็บป่วยแต่อย่างใดเลย นอกจากนี้แล้วเมื่อ ตนจำต้องคลอดบุตร ว่างงาน ชราภาพ สิทธิในการประกันสังคมก็ยังมารองรับกับความต้องการของลูกจ้างในส่วนนี้อีกด้วย อีกทั้ง “กองทุนสำรองลี้ยงชีพ” ที่หลายท่านอาจาพอเคยได้ยินได้ฟังมาบ้างแล้ว ก็ยังเป็นอีกวิธีหนึ่งในการออมของลูกจ้าง ซึ่งฝ่ายนายจ้างเองก็ยังถือเอาสิทธิดังกล่าวมาเป็นหลักในการจัดสวัสดิการให้กับลูกจ้างของตนเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานได้อีกด้วย

            เมื่อปีที่ผ่านมา (2558) กฎหมายประกันสังคมฉบับใหม่เพิ่งมีการแก้ไขปรับปรุง และเพิ่มสิทธิประโยชน์หลายประการให้กับฝ่ายลูกจ้าง จึงอาจเกิดการตั้งคำถามว่าแล้วลูกจ้างได้ประโยชน์อะไร ส่วนฝ่ายนายจ้างเองก็คงกังวลไม่น้อยกว่าตนจะต้องมีหน้าที่หรือภาระอย่างไรเพิ่มหรือไม่ ด้วยเหตุนี้คอร์ส “เงินทดแทน ประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ : สิทธิของลูกจ้างและหน้าที่ที่นายจ้างหนีไม่พ้น?” จึงได้ถูกจัดขึ้นเพื่อเป็นการปรับพื้นฐานและเกร็ดความรู้เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวให้ทั้งกับฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างที่สนใจ เพื่อที่ลูกจ้างเองจะได้ไม่พลาดสิทธิที่ตนพึงได้ และนายจ้างเองก็จะได้จัดสรรบริหารองค์กรให้ถูกหลักการของกฎหมายแรงงาน ซึ่งการอบรมในครั้งนี้มีระยะเวลา 6 ชั่วโมง โดยมีเนื้อหาประกอบด้วย

      1. แนวคิดและหลักการพื้นฐานของกฎหมายทั้ง 3 ฉบับ (กฎหมายเงินทดแทน กฎหมายประกันสังคม และกฎหมายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ) เพื่อที่จะใช้เป็นพื้นฐานในการทำความเข้าใจถึงรายละเอียดต่อไป ซึ่งเนื้อหาในส่วนนี้จะช่วยให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจหลักการกฎหมายทั้งสามได้แบบง่ายๆ ไม่ต้องจำ แต่ใช้งานได้ถูกต้อง 

      2.  กฎหมายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 

      3.  กฎหมายเงินทดแทน 

      4.  กฎหมายประกันสังคม

      5.  ข้อพิพาทและประเด็นปัญหาที่เกี่ยวกับกฎหมายทั้งสาม

หมายเหตุ หลักสูตรนี้จัดขึ้นและปรับเนื้อหาให้กระชับเหมาะกับทุกท่านที่ต้องใช้กฎหมายทั้งสามฉบับนี้และไม่จำเป็นต้องมีพื้นความรู้กฎหมายแรงงานมาก่อนก็สามารถเข้าอบรมได้

ลักษณะและวิธีการอบรม 

              การบรรยายเชิงอภิปราย และการทำกิจกรรมกลุ่มในรูปของการวิเคราะห์และประเมินผลกรณีศึกษาเพื่อทดสอบความเข้าใจ