การป้องกันและการบํารุงรักษาเครื่องจักร Effectiveness of Preventive maintenance

          ปัจจุบันการแข่งขันด้านการผลิตที่มีความรุนแรง ทําให้บริษัทใดที่ทําให้เครื่องจักรมีการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง ย่อมก่อให้เกิดความได้เปรียบในเชิงธุรกิจมากกว่าคู่แข่ง และยังเป็นแนวทางในการเพิ่มผลผลิต เป็นการใช้ เวลาในการผลิตได้อย่างคุ้มค่า จากการที่เครื่องจักรเป็นปัจจัยหลักในการผลิต ซึ่งหากเครื่องจักรเกิดการขัดข้องเดินไม่เต็มสมรรถนะ หรือหยุดเสียหายโดยไม่ได้คาดการณ์ไว้ ย่อมส่งผลกระทบต่อการส่งมอบที่ล่าช้าและ คุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ตํ่าลงอีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อขวัญและกําลังใจของพนักงานอันเนื่องมาจากการควบคุม เครื่องจักรที่ไม่ปลอดภัย ดังนั้นจึงมีความจําเป็นต้องทําการป้องกันเพื่อไม่ให้เครื่องจักรขัดข้อง หรือหยุดโดยการใช้ระบบการบํารุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) เพื่อให้เครื่องจักรมีความพร้อมในการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง โดยหลักสูตรนี้จะช่วยเน้นให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจถึงปัจจัยที่มีผลต่อการผลิต การสร้างจิตสํานึกต่อ 

          การรักษาผลผลิตของบริษัท และเน้นการวางแผนซ่อมบํารุงเชิงป้องกัน PM (Preventive Maintenance) เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดด้วยต้นทุนที่ตํ่าและคุ้มค่า โดยใช้ข้อมูลและประวัติของเครื่องจักรเพื่อให้สามารถนําไปประยุกต์ใช้งานได้ รวมทั้งการคิดอัตราประสิทธิภาพการผลิตของเครื่องจักรได้อีกด้วย

วัตถุประสงค์

     1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้ความเข้าใจในการบํารุงรักษาเครื่องจักรที่ถูกต้อง

     2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและการบริการซ่อมบํารุง

     3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจธรรมชาติของกระบวนการผลิตด้วยเครื่องจักร

     4. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีแนวคิดในการลดความสูญเสียของเครื่องจักรในระบบการผลิต

หัวข้อการอบรม

   1. แนวคิดในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

   2. ความสําคัญของเครื่องจักรที่มีผลต่อการผลิต

   3. รู้จักกับการบํารุงรักษาแบบต่างๆ

           3.1 การบํารุงรักษาด้วยตนเอง (Autonomous Maintenance)

           3.2 การบํารุงรักษาเชิงวางแผน (Planned Maintenance)

           3.3 การบํารุงรักษาเชิงคุณภาพ (Quality Maintenance)

           3.4 การบํารุงรักษาเชิงพยากรณ์ (Predictive Maintenance)

           3.5 การบํารุงรักษาทวีผล (Productive Maintenance)

   4. ใครเกี่ยวข้องบ้างในระบบการบํารุงรักษาเชิงป้องกัน?

   5. การวัดประสิทธิภาพเครื่องจักรด้วย OEE, MTBF, MTTR

   6. การเพิ่มประสิทธิภาพการซ่อมบํารุง เพื่อการผลิตอย่างต่อเนื่อง

   7. สิ่งที่จําเป็นต้องมีในการบํารุงรักษาเชิงป้องกัน

   8. ขั้นตอนการวางระบบการบํารุงรักษาเชิงป้องกัน

   9. การเก็บข้อมูลในการซ่อมบํารุง เพื่อใช้ในการปรับปรุงระบบ PM

   10.การปรับปรุงเฉพาะเรื่อง (Individual Improvement)

   11. การวิเคราะห์ปัญหาการซ่อมบํารุงด้วย Why why analysisและ Fishbone diagram

   12. Workshop: การวางแผน PM

กําหนดการ

09.00 - 09.15 น. : ละลายพฤติกรรมและสร้างมนุษย์สัมพันธ์

                                   - ทํากิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ 

09.15 - 10.30 น. : พื้นฐานการผลิตและซ่อมบํารุง

                                 1. แนวคิดในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

                                 2. ความสําคัญของเครื่องจักรที่มีผลต่อการผลิต

                                 3. รู้จักกับการบํารุงรักษาแบบต่างๆ

                                          3.1 การบํารุงรักษาด้วยตนเอง (Autonomous Maintenance)

                                          3.2 การบํารุงรักษาเชิงวางแผน (Planned Maintenance)

                                          3.3 การบํารุงรักษาเชิงคุณภาพ (Quality Maintenance)

                                          3.4 การบํารุงรักษาเชิงพยากรณ์ (Predictive Maintenance)

                                          3.5 การบํารุงรักษาทวีผล (Productive Maintenance)

10.30 - 10.45 น. : พักเบรก

10.45 - 12.00 น. : ระบบซ่อมบํารุงเชิงป้องกัน

                                  4. ใครเกี่ยวข้องบ้างในระบบการบํารุงรักษาเชิงป้องกัน?

                                  5. การวัดประสิทธิภาพเครื่องจักรด้วย OEE, MTBF, MTTR

                                  6. การเพิ่มประสิทธิภาพการซ่อมบํารุง เพื่อการผลิตอย่างต่อเนื่อง

                                  7. สิ่งที่จําเป็นต้องมีมีการบํารุงรักษาเชิงป้องกัน

12.00 - 13.00 น. : พักเที่ยง

13.00 - 14.30 น. : การเพิ่มประสิทธิภาพระบบซ่อมบํารุง

                                  8. ขั้นตอนการวางระบบการบํารุงรักษาเชิงป้องกัน

                                  9. การเก็บข้อมูลในการซ่อมบํารุง เพื่อใช้ในการปรับปรุงระบบ PM

                                  10.การปรับปรุงเฉพาะเรื่อง (Individual Improvement)

14.30 - 14.45 น. : พักเบรก

14.45 - 16.00 น. : การเพิ่มประสิทธิภาพระบบซ่อมบํารุง (ต่อ)กิจกรรมกลุ่ม

                                  11. การวิเคราะห์ปัญหาการซ่อมบํารุงด้วย Why why analysis

                                  12. Workshop: การวางแผน PM

รูปแบบการสัมมนา

     1. การบรรยาย 40 %

     2. เกมส์ / กิจกรรมกลุ่ม / ฝึกปฏิบัติ Workshop และการนําเสนอผลงานกลุ่ม 40%

     3. กรณีศึกษา และดูภาพยนตร์ 20 %

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

     1. พนักงานมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการซ่อมบํารุงเชิงป้องกัน

     2. พนักงานเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาปรับปรุงเครื่องจักรเพื่อยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพในการทํางานอย่างต่อเนื่อง

     3. สามารถประยุกต์ใช้ในการทํางานและขยายผลภายในองค์กรต่อไป

     4. พนักงานสามารถประยุกต์ใช้เทคนิคการปรับปรุงเครื่องจักร ร่วมกับกิจกรรมหรือโครงการปรับปรุงต่างๆ ได้