หลักสูตร : การคิดวิเคราะห์เชิงตรรกะอย่างเป็นระบบเพื่อความสำเร็จในการทำงาน ( Analytical System for Logical Thinking to Successful Working ) อบรมในรูปแบบ Online ผ่าน Zoom
ที่มาของหลักสูตร ปัจจัยสำคัญที่ทำให้องค์กรเกิดการพัฒนานั้น เริ่มต้นจากการพั...
จำนวนเข้าชม 4966 ครั้ง
ที่มาของหลักสูตร ปัจจัยสำคัญที่ทำให้องค์กรเกิดการพัฒนานั้น เริ่มต้นจากการพั...
หลักการและเหตุผล MRP (Material Requirements Planning) คือ แผนหร...
ซื้อมาขายไปแบบ Global Business (ธุรกิจระดับโลก)
คุณอาจเป็นผู้ที่ทำธุรกิจระหว่างประเทศ (International Trade) อยู่แล้ว โดยการเป็นผู้ซื้อวัตถุดิบ เครื่องจักร เครื่องมือ ให้กับหน่วยงานหรือองค์กรของคุณ
แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ซื้อสินค้ามาเพื่อขายออกไป คุณก็จะจัดอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่าเป็น Merchandising Business or Trading Business
แต่ Global business + Trading Business อาจเป็นของแปลกใหม่สำหรับคุณ เราอาจเรียกว่าเป็น การซื้อมาขายไป..แบบระดับโลก
ในฐานะที่ปรึกษา โดยปกติผมก็จะให้คำแนะนำในเรื่องทั่วไป รวมถึงการสอนในห้องอบรม ก็จะไม่ลงลึกขนาดนี้ แต่ case นี้น่าสนใจ ก็เลยถือโอกาสเอามาเล่าให้ฟังกันครับ
ผมได้รับโจทย์ ให้ช่วยแก้ปัญหา ในการทำธุรกิจระหว่างประเทศของหน่วยงานหนึ่ง โจทย์คือ :
>บริษัทแม่(ผู้ขาย) อยู่ที่ประเทศไทย ต้องการนำสินค้าไปส่งขายยังประเทศ A (ลูกค้า) โดยมีการซื้อสินค้ามาจากประเทศ B (ผู้ผลิต)
>ขณะเดียวกันก็มีสำนักงานขาย (บริษัทลูก) อยู่ที่ประเทศ C ซึ่งก็ค้าขายกับลูกค้าที่อยู่ในประเทศ A อยู่แล้ว
>คราวนี้มีความต้องการให้นำสินค้าจากประเทศ B นั้น มารวมกับสินค้าที่อยู่ในประเทศ C เพื่อส่งขายไปยังประเทศ B !!
>ทางบริษัทผู้ขายได้ปรึกษาไปยัง บริษัทฯ shipping (ผู้ให้บริการการจัดส่งต่างประเทศ) แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับความกระจ่าง และกลัวว่าจะมีปัญหาในการปฏิบัติ เพราะถ้าเกิดปัญหาจะไปกระทบกับลูกค้าได้ !
ผมได้รับทราบและได้วิเคราะห์ ในกรณีนี้ จะเห็นว่ามันมีความยุ่งยาก และซับซ่อนในการจัดการ เรื่อง :
1. เอกสารที่เราเรียกว่า Shipping Document หรือเอกสารเพื่อการส่งออก จะออกอย่างไร !
2. เรื่องค่าใช้จ่าย ที่จะเกิดขึ้นการรวมการส่ง (Combine shipping) / ภาษีขาเข้า ! / ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
จริงๆแล้ว เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรครับ ซึ่งประเทศสิงคโปร์เขาทำกันมานานแล้ว ในฐานะเป็นประเทศที่ทำธุรกิจซื้อมาขายไป ในระดับโลก
โดยการขายของประเทศสิงคโปร์นั้น เขาจะเป็นผู้ขาย (ออกเอกสารเรียกเก็บเงิน Invoice) แต่สินค้าจะออกจากประเทศผู้ผลิต แล้วส่งตรงไปยังประเทศลูกค้าได้เลย
แต่ในการเอกสารเพื่อการส่งออก (Shipping Document) จะไม่การสำแดงรายละเอียดในชื่อผู้ผลิต ซึ่งก็จะทำให้ลูกค้าไม่รู้ว่า ใครเป็นผู้ผลิต !!
นี้ก็เป็นเทคนิคที่หอการค้าโลกจัดทำขึ้น และสิงคโปร์ก็ได้ใช้ประโยชน์จากรูปแบบนี้ ในการทำมาหากินมานานแล้ว !
วิธีนี้ในปัจจุบัน เราก็สามารถพบเจอได้ ในรุปแบบของ E-commerce บาง platform เช่น Alibaba ที่เราเรียกว่า Drop shipment ! ปัจจุบันก็ถือว่า เป็นช่่องทางในการทำธุรกิจแบบหนึ่ง
สำหรับโจทย์ที่ให้มานี้ แก้ไม่ยาก ก็แนะนำไปดังนี้ :
>ผู้ขาย จะต้องรู้ถึงความต้องการของตัวเอง และของลูกค้าก่อน
>แนะนำให้ติดต่อกับ shipping ที่มีศักยภาพ เพื่อหาข้อมูลเพื่อดำเนินการ โดยเลือก shipping ที่มีสายเรือเป็นของตัวเอง มีสำนักงานอยู่ในประเทศ A & C
>หลังจากนั้น เอามาดูแนวปฏิบัติที่เป็นไปได้ มาพิจารณาว่า ใครได้ประโยชน์ และได้ประโยชน์อย่างไร แต่ละฝ่ายจะยอมรับได้ไหม เพื่อจะได้เอาไปทำข้อตกลงกัน ก่อนที่จะดำเนินการจริง
หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างนะครับ
อนันต์ วชิราวุฒิชัย