การบริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมที่ก่อให้เกิดกำไร(Profitable Resource and Environmental Management) หรือที่เรียกโดยย่อว่าPREMA นั้นเป็นวิธีการ (Approach) ที่บูรณาการเครื่องมือต่างๆ(Tools) เพื่อใช้ในการปรับปรุงหรือแก้ปัญหาประสิทธิภาพและประสิทธิผลจากการใช้หรือบริโภค(Consume) ทรัพยากรของ ระบบการทำงานในธุรกิจ (Operations System)ไม่ว่าจะเป็น งานการผลิต งานการให้บริการและงานพาณิชยกรรม ซึ่งในกระบวนการทำงานเหล่านั้นต่างก็มีเป้าหมายในการผลิตสินค้าหรือให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าหรือผู้บริโภคอย่างไรก็ตามในกระบวนการดังกล่าวได้ทำให้เกิดการสูญเสียทรัพยากร อันประกอบด้วย วัตถุดิบนํ้า และพลังงาน เพื่อให้เกิดผลผลิตสินค้าหรือการให้บริการออกมา ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่าองค์กรทุกแห่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงการสูญเสียทรัพยากรเหล่านี้ได้ทั้งหมด แต่อาจจะมีความสามารถทำให้เกิดการสูญเสียน้อยมากแตกต่างกัน

2 ด้าน คือการลดผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อระบบการผลิตใช้ทรัพยากรน้อยลงหรือมีประสิทธิภาพมากขึ้นความจำเป็นในการจัดหาก็จะน้อยลง กระบวนการทำงานใช้ทรัพยากรก็ลดลง และทรัพยากรที่หลงเหลือเป็นของเสียจากกระบวนการผลิตก็ลดลงเช่นกันนอกจากนั้นผลดีที่เกิดขึ้นอีกด้านคือผลที่เกิดต่อการบริหารจัดการองค์การ การลดสิ่งที่ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์นั้นจะมีส่วนทำให้ขั้นตอนการทำงานในองค์การอยู่บนพื้นฐานการใช้ทรัพยากรอย่างเป็นเหตุเป็นผล สร้างมาตรฐานการทำงานที่ดูแลเอาใจใส่ต่อทรัพยากรและการ 3 นี้รวมเรียกกันว่า ชัยชนะ 3 ด้านของ PREMA หรือ Triple Win ได้แก่ ด้านเศรษฐศาสตร์  ด้านสิ่งแวดล้อม และการเรียนรู้การจัดการองค์กรการนำวิธีการ PREMA มาใช้ให้ได้ผลนั้น จะต้องการดำเนินการแบบเป็นขั้นตอนตามบันไดการเรียนรู้ โดยใช้แนวทางการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเรียนรู้แบบผู้ใหญ่และการให้การแนะนำ(Training and Coaching Workshop) จากวิทยากรและทีมที่ปรึกษาที่สามารถอำนวยการให้เกิดความเข้าใจอย่างเป็นขั้นเป็นตอนตามกระบวนการเริ่มต้นตั้งแต่การสร้างความเข้าใจเรื่องสิ่งที่ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ การประเมินผลกระทบจากสิ่งที่ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์การค้นหาสาเหตุ การสร้างมาตรการ การสร้างแผนปฏิบัติการ และการประเมินติดตามผล โดยในระหว่างดำเนินการตามวิธีการPREMA นั้น จะมีการประชุมเครือข่าย (Network Meeting) เพื่อเป็นช่องทางการติดตามความก้าวหน้า ให้คำแนะนำ การแก้ไขปัญหา    ข้อขัดแย้งในองค์กร และการให้ความรู้ใหม่ ทั้งนี้เพื่อทำให้การแก้ปัญหาสิ่งที่ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ประสบความสำเร็จ