หลักสูตร การบริหารสินเชื่อและการเจรจาเพื่อติดตามหนี้
รหัสหลักสูตร: 25432
จำนวนคนดู 3997 ครั้ง
กดเพื่อแจ้งสัมมนาไม่เหมาะสม
สัมมนานี้ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว
ลงชื่อเพื่อจองสัมมนาในรอบถัดไป
(ถ้ามีจัด ท่านจะได้สิทธิ์ก่อน)
(ถ้ามีจัด ท่านจะได้สิทธิ์ก่อน)
การให้สินเชื่อกับลูกค้าซึ่งเป็นลูกหนี้การค้า ต้องรอจนถึงวันที่ครบกำหนดชำระหนี้ และต้อสามารถเก็บเงินจากลูกหนี้การค้าได้เสียก่อน จึงจะถือว่า การขายครั้งนั้นสมบูรณ์ “การให้สินเชื่อแก่ลูกค้า”ต้องพิจารณาถึงความเสี่ยงในการให้เครดิตแก่ลูกค้า และความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า หากบัญชีลูกหนี้มีจำนวนมากก็จะทำให้เงินจมในบัญชีลูกหนี้มาก หากลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามกำหนดเวลา อาจจะส่งผลถึงเงินทุนหมุนเวียนของธุรกิจไม่เพียงพอหรือธุรกิจอาจจะขาดสภาพคล่องได้ การลงทุนในสินค้าคงคลังก็จะน้อยลง และจะส่งผลกระทบทำให้ยอดขายลดลงได้เช่นกัน
ดังนั้น การพิจารณาลูกค้าผู้ที่จะมาเป็นลูกหนี้การค้าจึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจ หากสามารถ พิจารณา การให้สินเชื่อกับ ลูกค้าที่มาซื้อสินค้าได้อย่างถูกต้องโอกาสที่จะเก็บเงินได้ครบตามกำหนดย่อมมีมากกว่า ส่วนการติดตามหนี้ต้องใช้ทั้งทักษะและประสบการณ์ สิ่งที่พบอยู่เสมอ คือ ลูกค้าชอบหาเหตุมาอ้างและไม่ยอมชำระหนี้หรือพบตัวลูกค้ายาก(ชอบหลบหน้า)ในบางกรณีอาจจะใช้โทรศัพท์ติดต่อลูกค้า ปัญหาที่พบบ่อยคือ ลูกค้าไม่ยอมรับโทรศัพท์หรือโชคดีอาจจะติดต่อลูกค้าได้แต่จะลูกค้าบ่ายเบี่ยงการชำระหนี้ เมื่อพบปัญหาเหล่าต้องหาวิธีรับมือและแก้ไขปัญหา“ทำอย่างไรให้ลูกหนี้ยอมเจรจาและยอมชำระหนี้” การใช้คำพูดและน้ำเสียงเพื่อจูงใจ หรือ โน้มน้าวให้ลูกค้ายอมชำระหนี้ตามเงื่อนไข โดยยังมีความสัมพันธ์ อันดีต่อกัน เรียกว่า”ได้ทั้งเงิน และได้ทั้งใจ ลูกค้า”อีกด้วย
หลักสูตรนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาทราบทราบแนวทางในการบริหารสินเชื่อและวิธีการวางตัวหรือการใช้คำพูดกับลูกค้าในแต่ละสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นจริง และทราบวิธีรับมือลูกค้าต้องทำอย่างไร โดยนำทักษะการเจรจาต่อรอง (Negotiation Skills) มาประยุกต์และใช้กับลูกค้าในแต่ละสไตล์ หลักเกณฑ์ต่างๆที่นำมาใช้ในการสัมมนาครั้งนี้ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะสามารถนำจุดแข็งไปใช้ได้และขจัดข้อโต้แย้งจากลูกค้าได้โดยการนำทักษะในการเจรจาต่อรองเพื่อแก้ไขสถาการณ์และไม่เปิดช่องว่างหรือจุดอ่อนให้ลูกค้านำมาใช้เป็นข้ออ้างเพื่อบ่ายเบี่ยงการชำระหนี้ใภายหลังโดยผลลัพธ์สุดท้าย ธุรกิจจะต้องมีผลมีกำไร และมีสภาพคล่อง หนี้เสียลดลง ปัญหาหนี้สูญไม่เกิดขึ้น
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้การบริหารสินเชื่อและการจัดการบัญชีลูกหนี้ได้ถูกวิธีและมีผลงานการจัดเก็บบัญชีลูกหนี้ได้มากขึ้น
2. เพื่อพัฒนาบุคคลากร ให้เกิดความเข้าใจและสามารถนำทักษะจากการฝึกอบรมมาใช้ให้เกิดประโยขน์สูงสุด
3. เพื่อลดเวลาและลดต้นทุนในการติดตามหนี้ให้น้อยลง
ดังนั้น การพิจารณาลูกค้าผู้ที่จะมาเป็นลูกหนี้การค้าจึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจ หากสามารถ พิจารณา การให้สินเชื่อกับ ลูกค้าที่มาซื้อสินค้าได้อย่างถูกต้องโอกาสที่จะเก็บเงินได้ครบตามกำหนดย่อมมีมากกว่า ส่วนการติดตามหนี้ต้องใช้ทั้งทักษะและประสบการณ์ สิ่งที่พบอยู่เสมอ คือ ลูกค้าชอบหาเหตุมาอ้างและไม่ยอมชำระหนี้หรือพบตัวลูกค้ายาก(ชอบหลบหน้า)ในบางกรณีอาจจะใช้โทรศัพท์ติดต่อลูกค้า ปัญหาที่พบบ่อยคือ ลูกค้าไม่ยอมรับโทรศัพท์หรือโชคดีอาจจะติดต่อลูกค้าได้แต่จะลูกค้าบ่ายเบี่ยงการชำระหนี้ เมื่อพบปัญหาเหล่าต้องหาวิธีรับมือและแก้ไขปัญหา“ทำอย่างไรให้ลูกหนี้ยอมเจรจาและยอมชำระหนี้” การใช้คำพูดและน้ำเสียงเพื่อจูงใจ หรือ โน้มน้าวให้ลูกค้ายอมชำระหนี้ตามเงื่อนไข โดยยังมีความสัมพันธ์ อันดีต่อกัน เรียกว่า”ได้ทั้งเงิน และได้ทั้งใจ ลูกค้า”อีกด้วย
หลักสูตรนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาทราบทราบแนวทางในการบริหารสินเชื่อและวิธีการวางตัวหรือการใช้คำพูดกับลูกค้าในแต่ละสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นจริง และทราบวิธีรับมือลูกค้าต้องทำอย่างไร โดยนำทักษะการเจรจาต่อรอง (Negotiation Skills) มาประยุกต์และใช้กับลูกค้าในแต่ละสไตล์ หลักเกณฑ์ต่างๆที่นำมาใช้ในการสัมมนาครั้งนี้ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะสามารถนำจุดแข็งไปใช้ได้และขจัดข้อโต้แย้งจากลูกค้าได้โดยการนำทักษะในการเจรจาต่อรองเพื่อแก้ไขสถาการณ์และไม่เปิดช่องว่างหรือจุดอ่อนให้ลูกค้านำมาใช้เป็นข้ออ้างเพื่อบ่ายเบี่ยงการชำระหนี้ใภายหลังโดยผลลัพธ์สุดท้าย ธุรกิจจะต้องมีผลมีกำไร และมีสภาพคล่อง หนี้เสียลดลง ปัญหาหนี้สูญไม่เกิดขึ้น
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้การบริหารสินเชื่อและการจัดการบัญชีลูกหนี้ได้ถูกวิธีและมีผลงานการจัดเก็บบัญชีลูกหนี้ได้มากขึ้น
2. เพื่อพัฒนาบุคคลากร ให้เกิดความเข้าใจและสามารถนำทักษะจากการฝึกอบรมมาใช้ให้เกิดประโยขน์สูงสุด
3. เพื่อลดเวลาและลดต้นทุนในการติดตามหนี้ให้น้อยลง
หัวข้ออบรมสัมมนา
หัวข้อสัมมนา
1. มาตราฐานสินเชื่อ(Credit Standard)
*หลักเกณฑ์การพิจารณาเครดิต 5’C
*การจัดระดับของลูกค้าและวงเงินสินเชื่อ
*การผู้มีอำนาจอนุมัติวงเงินสินเชื่อ
*การใช้ประโยชน์ข้อมูลของลูกค้ามาพิจารณาสินเชื่อ
*การขอเปิดวงเงินสินเชื่อ
2. การบริหารการเก็บเงิน ( Collection Management )
*การออกจดหมายเตือน / จดหมายทวงหนี้
3. สัญญาณเตือนภัย และสาเหตุของลูกหนี้ที่เริ่มมีปัญหา
4. การควบคุมสินเชื่ออย่างมีประสิทธิภาพ( Effective Credit Control )
5. กลยุทธ์การเจรจาเพื่อติดตามหนี้ ( Debt Collection & Negotiations )
*กุญแจของการฟัง
*อำนาจในการต่อรอง (อยู่ที่ไหน? อยู่ที่ใคร?)
*การเจรจาและวางตัวเพื่อรับมือกับลูกหนี้ 6 ประเภท
- โกรธง่าย (ใจร้อน) - เชื่องช้า (สุขุม)
- รู้ทุกเรื่อง (ชอบคนยกย่อง) - ลังเล (ไม่แน่ใจ)
- ช่างสงสัย (ไม่ไว้ใจใคร) - พูดเก่ง (ทำให้คุณหัวเสียได้)
*เวทีการเจรจาต่อรอง
*การเตรียมพร้อมก่อนเจรจาหนี้
*ทักษะในการเจรจาหนี้ 8 ขั้นตอน (Negotiations Skill)
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. ทราบกำหนดแนวทางในการให้สินเชื่อ เพื่อลดความเสี่ยงและนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อหน่วยงานของธุรกิจ
2. ทราบขั้นตอนในการติดตามหนี้และทราบทักษะการเจรจาเพื่อนำมาใช้ในการเจรจากับลูกค้า
3. สามารถนำทักษะจากการฝึกอบรมมาใช้ควบคุมดูแลงานด้านสินเชื่อให้มีประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น
1. มาตราฐานสินเชื่อ(Credit Standard)
*หลักเกณฑ์การพิจารณาเครดิต 5’C
*การจัดระดับของลูกค้าและวงเงินสินเชื่อ
*การผู้มีอำนาจอนุมัติวงเงินสินเชื่อ
*การใช้ประโยชน์ข้อมูลของลูกค้ามาพิจารณาสินเชื่อ
*การขอเปิดวงเงินสินเชื่อ
2. การบริหารการเก็บเงิน ( Collection Management )
*การออกจดหมายเตือน / จดหมายทวงหนี้
3. สัญญาณเตือนภัย และสาเหตุของลูกหนี้ที่เริ่มมีปัญหา
4. การควบคุมสินเชื่ออย่างมีประสิทธิภาพ( Effective Credit Control )
5. กลยุทธ์การเจรจาเพื่อติดตามหนี้ ( Debt Collection & Negotiations )
*กุญแจของการฟัง
*อำนาจในการต่อรอง (อยู่ที่ไหน? อยู่ที่ใคร?)
*การเจรจาและวางตัวเพื่อรับมือกับลูกหนี้ 6 ประเภท
- โกรธง่าย (ใจร้อน) - เชื่องช้า (สุขุม)
- รู้ทุกเรื่อง (ชอบคนยกย่อง) - ลังเล (ไม่แน่ใจ)
- ช่างสงสัย (ไม่ไว้ใจใคร) - พูดเก่ง (ทำให้คุณหัวเสียได้)
*เวทีการเจรจาต่อรอง
*การเตรียมพร้อมก่อนเจรจาหนี้
*ทักษะในการเจรจาหนี้ 8 ขั้นตอน (Negotiations Skill)
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. ทราบกำหนดแนวทางในการให้สินเชื่อ เพื่อลดความเสี่ยงและนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อหน่วยงานของธุรกิจ
2. ทราบขั้นตอนในการติดตามหนี้และทราบทักษะการเจรจาเพื่อนำมาใช้ในการเจรจากับลูกค้า
3. สามารถนำทักษะจากการฝึกอบรมมาใช้ควบคุมดูแลงานด้านสินเชื่อให้มีประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น