หลักสูตร “บทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของหัวหน้างานยุคใหม่"
รหัสหลักสูตร: 25582
จำนวนคนดู 71316 ครั้ง
กดเพื่อแจ้งสัมมนาไม่เหมาะสม
สัมมนานี้ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว
ลงชื่อเพื่อจองสัมมนาในรอบถัดไป
(ถ้ามีจัด ท่านจะได้สิทธิ์ก่อน)
(ถ้ามีจัด ท่านจะได้สิทธิ์ก่อน)
หัวหน้างาน (Supervisor) ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งมาจากพนักงานชั้นต้นที่มีความสามารถในการปฏิบัติงานดี มีความประพฤติเหมาะสม เป็นที่ไว้วางใจของฝ่ายจัดการ และเป็นผู้ที่มีความรู้ความชำนาญทางเทคนิคการปฏิบัติเป็นอย่างดี แต่ยังคงขาดความรู้ความสามารถและทักษะทางการบริหารและการจัดการ เพราะการก้าวสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นนั้นนอกจากภาระหน้าที่ความรับผิดชอบ การวินิจฉัยปัญหาและการตัดสินใจจะเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังคงต้องคอยดูแลทุกข์สุข บังคับบัญชาลูกน้องในทีม บริหารเป้าหมายการผลิต การขาย และการบริการให้ได้ตามที่ได้รับมอบหมายจากฝ่ายจัดการ วางแผนงาน มอบหมายงาน ควบคุมติดตามงาน พัฒนาผู้ใต้บังคับบัญชา จูงใจให้ลูกน้องผลิตผลงานที่มีคุณภาพ ทันเวลา และได้ปริมาณงานที่มากที่สุดแล้ว ยังต้องตัดสินใจในปัญหาต่าง ๆ รวมทั้งอาจจะประสบปัญหายุ่งยากในการทำงานร่วมกับผู้อื่น การลงโทษและการให้รางวัลลูกน้อง การจัดการและควบคุมการประชุม การถ่ายทอดข่าวสารจากระดับบนให้ผู้ปฏิบัติงานได้ทราบ ดังนั้นหัวหน้างานจึงจำเป็นต้องเรียนรู้บทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบ รวมทั้งการฝึกทักษะที่จำเป็นต่อการบริหารและจัดการ อันจะนำมาซึ่งประโยชน์ต่อตนเอง ทีมงาน และองค์กร
เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพและเพิ่มพลังหัวหน้างานยุคใหม่ภายใต้สภาวะการแข่งขัน และการเปลี่ยนแปลง โดยใช้เกมการบริหารสลับการบรรยาย (Management Game & Short Lecture) มุ่งเน้นการถ่ายทอดแนวคิดและกลยุทธ์สมัยใหม่ที่ใช้ได้ผลเลิศในการพัฒนาหัวหน้างานให้มีจิตสำนึกในบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของตน ตลอดจนมีความรู้และทักษะที่ถูกต้องเหมาะสมใน
การเป็นหัวหน้างานยุคใหม่ เครื่องมือและกิจกรรมการฝึกอบรมเป็นแนวทางการพัฒนาบุคลากรที่สนุกสนาน ตื่นเต้น ท้าทาย เข้าใจง่าย ได้สาระประโยชน์ที่ใช้ปรับปรุงและพัฒนาศักยภาพของหัวหน้างานได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยกระบวนการจะมุ่งเน้นให้ผู้เข้าฝึกอบรมได้เรียนรู้เกี่ยวกับการขุดรากถอนโคนทางความเชื่อ ทัศนคติ และค่านิยมที่ไม่ถูกต้องในการมองตนเองและสิ่งที่อยู่รอบตัว การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมใหม่ในการทำงานแบบหัวหน้างานมืออาชีพ อันได้แก่ บทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของหัวหน้างาน การวางแผน การจัดตาราง และการจัดลำดับความสำคัญก่อนและหลังของงาน การสั่งงานและมอบหมายงาน การควบคุมและติดตามงาน การสอนงานและการให้คำปรึกษาหารือ การวัดค่าและประเมินผลการปฏิบัติงาน การโน้มน้าวจูงใจผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งมีความท้าทาย (Challenge) เป็นตัวจุดชนวนที่สำคัญ
เกมการบริหารสลับการบรรยายตั้งอยู่บนแนวความคิดที่ว่าการที่จะพัฒนาวิธีการคิด ทัศนคติความรู้ความเข้าใจ และทักษะที่จำเป็นต่อการเป็นหัวหน้างานยุคใหม่ที่มีประสิทธิภาพนั้น ลำพังแค่ฟังการบรรยายในห้องเรียนแต่เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการสร้างความรู้ความเข้าใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเต็มใจที่จะนำเอาแนวคิด และหลักการที่ได้จากกิจกรรมการฝึกอบรมไปประยุกต์ใช้ในการทำงานจริง แต่จะต้องสร้างสถานการณ์สมมติที่ก่อให้เกิดจิตสำนึกที่จะทำภารกิจในฐานะหัวหน้างานให้บรรลุเป้าหมายภายใต้เวลาที่กำหนดและเงื่อนไขที่กดดันเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ การยอมรับ และเกิดการปรับเปลี่ยนทัศนคติด้วยตนเอง “เปลี่ยนวิธีคิด เพื่อเปลี่ยนวิธีการ”
วัตถุประสงค์ของการฝึกอบรม
1. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ความเข้าใจและตระหนักในบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของหัวหน้างานยุคใหม่ที่องค์กรคาดหวังและต้องการ
2. เพื่อให้หัวหน้ามีทัศนคติและวิธีการคิดที่ถูกต้องเหมาะสมในการเป็นหัวหน้างานที่ต้องมีจิตสำนึกและความรับผิดชอบต่อเป้าหมายของงาน ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน และองค์กร
3. เพื่อพัฒนาศักยภาพและเตรียมความพร้อมหัวหน้างานยุคใหม่ภายใต้สภาวะแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกองค์กร ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงแนวคิดใหม่ (Paradigm) ทัศนคติ (Attitude) ความรู้ (Knowledge) และทักษะ (Skill) ที่จำเป็นในการพัฒนาและปรับปรุงวิธีการบริหารงานและบริหารคนได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างมืออาชีพ
4. เพื่อทำให้สามารถวิเคราะห์และแจกแจงพฤติกรรม หรืออุปนิสัยการทำงานที่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานและการบรรลุเป้าหมายขององค์กร
การออกแบบหลักสูตร
หลักสูตรนี้เป็นการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) โดยจะมีการแบ่งผู้เข้ารับการฝึกอบรมออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 6-8 คน จะใช้เกมการบริหารสลับการบรรยาย (Management Game and Short Lecture) ในช่วงแรกเพื่อถ่ายทอดแนวคิด หลักการ วิธีการ ประสบการณ์ และเครื่องมือทางการจัดการในเรื่องนั้นๆ หลังจากนั้นจะมีการมอบหมายงานส่วนบุคคลและทำงานร่วมกันตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายเพื่อพัฒนาทักษะความชำนาญให้บรรลุผลสำเร็จในแต่ละทักษะที่จำเป็นสำหรับหัวหน้างาน โดยผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่สำคัญ 3 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นที่ 1 : Awareness คือการทำผู้เรียนให้เกิดการตระหนัก ยอมรับและเห็นความสำคัญและความ จำเป็นที่จะต้องพัฒนาจิตสำนึกในบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของหัวหน้างานยุคใหม่ โดยใช้เกมทางจิตวิทยา (Psychology Game)
ขั้นที่ 2 : Understanding คือขั้นการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับแนวคิด ทฤษฎี และ หลักการพัฒนาจิตสำนึกในบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของหัวหน้างานยุคใหม่ โดยใช้เกมการบริหารสลับการบรรยาย (Management Game and Short Lecture)
ขั้นที่ 3 : Implementation คือขั้นของการนำแนวคิด หลักการ ความรู้ ทัศนคติ และทักษะที่จำเป็น ต้องมีต่อการพัฒนาจิตสำนึกในบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของหัวหน้างานยุคใหม่ โดยใช้เกมท้าทายอัตตา (Ego Challenge Game)
รูปแบบ / เครื่องมือการฝึกอบรม
1. เกมการบริหารสลับการบรรยาย (Management Game and Short Lecture) 70%
2. กิจกรรมกลุ่มปฏิบัติการ (Workshop) 30%
เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพและเพิ่มพลังหัวหน้างานยุคใหม่ภายใต้สภาวะการแข่งขัน และการเปลี่ยนแปลง โดยใช้เกมการบริหารสลับการบรรยาย (Management Game & Short Lecture) มุ่งเน้นการถ่ายทอดแนวคิดและกลยุทธ์สมัยใหม่ที่ใช้ได้ผลเลิศในการพัฒนาหัวหน้างานให้มีจิตสำนึกในบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของตน ตลอดจนมีความรู้และทักษะที่ถูกต้องเหมาะสมใน
การเป็นหัวหน้างานยุคใหม่ เครื่องมือและกิจกรรมการฝึกอบรมเป็นแนวทางการพัฒนาบุคลากรที่สนุกสนาน ตื่นเต้น ท้าทาย เข้าใจง่าย ได้สาระประโยชน์ที่ใช้ปรับปรุงและพัฒนาศักยภาพของหัวหน้างานได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยกระบวนการจะมุ่งเน้นให้ผู้เข้าฝึกอบรมได้เรียนรู้เกี่ยวกับการขุดรากถอนโคนทางความเชื่อ ทัศนคติ และค่านิยมที่ไม่ถูกต้องในการมองตนเองและสิ่งที่อยู่รอบตัว การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมใหม่ในการทำงานแบบหัวหน้างานมืออาชีพ อันได้แก่ บทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของหัวหน้างาน การวางแผน การจัดตาราง และการจัดลำดับความสำคัญก่อนและหลังของงาน การสั่งงานและมอบหมายงาน การควบคุมและติดตามงาน การสอนงานและการให้คำปรึกษาหารือ การวัดค่าและประเมินผลการปฏิบัติงาน การโน้มน้าวจูงใจผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งมีความท้าทาย (Challenge) เป็นตัวจุดชนวนที่สำคัญ
เกมการบริหารสลับการบรรยายตั้งอยู่บนแนวความคิดที่ว่าการที่จะพัฒนาวิธีการคิด ทัศนคติความรู้ความเข้าใจ และทักษะที่จำเป็นต่อการเป็นหัวหน้างานยุคใหม่ที่มีประสิทธิภาพนั้น ลำพังแค่ฟังการบรรยายในห้องเรียนแต่เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการสร้างความรู้ความเข้าใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเต็มใจที่จะนำเอาแนวคิด และหลักการที่ได้จากกิจกรรมการฝึกอบรมไปประยุกต์ใช้ในการทำงานจริง แต่จะต้องสร้างสถานการณ์สมมติที่ก่อให้เกิดจิตสำนึกที่จะทำภารกิจในฐานะหัวหน้างานให้บรรลุเป้าหมายภายใต้เวลาที่กำหนดและเงื่อนไขที่กดดันเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ การยอมรับ และเกิดการปรับเปลี่ยนทัศนคติด้วยตนเอง “เปลี่ยนวิธีคิด เพื่อเปลี่ยนวิธีการ”
วัตถุประสงค์ของการฝึกอบรม
1. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ความเข้าใจและตระหนักในบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของหัวหน้างานยุคใหม่ที่องค์กรคาดหวังและต้องการ
2. เพื่อให้หัวหน้ามีทัศนคติและวิธีการคิดที่ถูกต้องเหมาะสมในการเป็นหัวหน้างานที่ต้องมีจิตสำนึกและความรับผิดชอบต่อเป้าหมายของงาน ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน และองค์กร
3. เพื่อพัฒนาศักยภาพและเตรียมความพร้อมหัวหน้างานยุคใหม่ภายใต้สภาวะแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกองค์กร ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงแนวคิดใหม่ (Paradigm) ทัศนคติ (Attitude) ความรู้ (Knowledge) และทักษะ (Skill) ที่จำเป็นในการพัฒนาและปรับปรุงวิธีการบริหารงานและบริหารคนได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างมืออาชีพ
4. เพื่อทำให้สามารถวิเคราะห์และแจกแจงพฤติกรรม หรืออุปนิสัยการทำงานที่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานและการบรรลุเป้าหมายขององค์กร
การออกแบบหลักสูตร
หลักสูตรนี้เป็นการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) โดยจะมีการแบ่งผู้เข้ารับการฝึกอบรมออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 6-8 คน จะใช้เกมการบริหารสลับการบรรยาย (Management Game and Short Lecture) ในช่วงแรกเพื่อถ่ายทอดแนวคิด หลักการ วิธีการ ประสบการณ์ และเครื่องมือทางการจัดการในเรื่องนั้นๆ หลังจากนั้นจะมีการมอบหมายงานส่วนบุคคลและทำงานร่วมกันตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายเพื่อพัฒนาทักษะความชำนาญให้บรรลุผลสำเร็จในแต่ละทักษะที่จำเป็นสำหรับหัวหน้างาน โดยผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่สำคัญ 3 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นที่ 1 : Awareness คือการทำผู้เรียนให้เกิดการตระหนัก ยอมรับและเห็นความสำคัญและความ จำเป็นที่จะต้องพัฒนาจิตสำนึกในบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของหัวหน้างานยุคใหม่ โดยใช้เกมทางจิตวิทยา (Psychology Game)
ขั้นที่ 2 : Understanding คือขั้นการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับแนวคิด ทฤษฎี และ หลักการพัฒนาจิตสำนึกในบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของหัวหน้างานยุคใหม่ โดยใช้เกมการบริหารสลับการบรรยาย (Management Game and Short Lecture)
ขั้นที่ 3 : Implementation คือขั้นของการนำแนวคิด หลักการ ความรู้ ทัศนคติ และทักษะที่จำเป็น ต้องมีต่อการพัฒนาจิตสำนึกในบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของหัวหน้างานยุคใหม่ โดยใช้เกมท้าทายอัตตา (Ego Challenge Game)
รูปแบบ / เครื่องมือการฝึกอบรม
1. เกมการบริหารสลับการบรรยาย (Management Game and Short Lecture) 70%
2. กิจกรรมกลุ่มปฏิบัติการ (Workshop) 30%
หัวข้ออบรมสัมมนา
รายละเอียดหลักสูตรเนื้อหาวิชา
ภารกิจที่ 1 : บทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของหัวหน้างาน
1.1 หัวหน้างานคือใคร ?
1.2 ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบของหัวหน้างาน
1.3 บทบาทของหัวหน้างานในองค์กร : ทำไมต้องมีหัวหน้างาน ?
1.4 หัวหน้างานจะช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าหมายได้อย่างไร ?
1.5 การกระทำของหัวหน้างานจะส่งผลกระทบต่อองค์กรอย่างไร ?
1.6 คุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับหัวหน้างานสมัยใหม่ที่องค์กรคาดหวังและต้องการ
ภารกิจที่ 2 : บทบาทในการเป็นหัวหน้าทีม (Coaching) : บริหารคน
2.1 หัวหน้างานกับการบริหารคน
2.2 การจูงใจพนักงาน
2.3 การสื่อความ
2.4 การสร้างและพัฒนาทีมงาน
2.4 การสอนงาน (Coaching Techniques)
ภารกิจที่ 3 : บทบาทในการเป็นหัวหน้าทีม (Coaching) : บริหารงาน
3.1 หัวหน้างานกับการบริหารงาน
3.2 การวางแผนงาน การจัดระบบงาน และการจัดลำดับความสำคัญของงาน
3.3 การควบคุมและติดตามงาน
3.4 การพัฒนาและปรับปรุงงาน
ภารกิจที่ 4 : ทักษะในการสั่งงานและมอบหมายงาน
4.1 ทักษะการสั่งงาน
• ความจำเป็นที่ต้องมีการสั่งงาน
• ประเภทของการสั่งงาน (3 รูปแบบ)
• เทคนิคและวิธีการสั่งงานแบบทูอินวัน
• เครื่องมือที่ใช้ได้ผลสูงสุดในการสั่งงาน
• ทำไมหัวหน้างานถึงสั่งงานแล้วมักไม่ได้งาน
4.2 ทักษะการมอบหมายงาน
• หลักจิตวิทยาและแนวคิดที่สำคัญในการมอบหมายงาน
• กระบวนการและเทคนิควิธีการมอบหมายงานที่มีประสิทธิภาพ
• หลักเกณฑ์ในการมอบหมายงาน
• การคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมเพื่อการมอบหมายงาน
• ข้อพึงระวังในการมอบหมายงานครั้งต่อไป
ภารกิจที่ 5 : ทักษะการโน้มน้าวจูงใจผู้ใต้บังคับบัญชา
5.1 แนวคิด ทฤษฎี และหลักจิตวิทยาที่เกี่ยวข้องกับการโน้มน้าวจูงใจ
• ทฤษฎีการวางเงื่อนไข (Conditioning Theory)
• ทฤษฎีการเสริมแรง (Reinforcement Theory)
5.2 เทคนิคการปรับพฤติกรรม (Shaping) กับการสร้างแรงจูงใจ
5.3 การนำหลักการโน้มน้าวจูงใจไปใช้ในการทำงาน
• การใช้อำนาจที่มีอยู่กระตุ้นให้คนทำงานเต็มความสามารถ
• การใช้สิ่งล่อใจหรือการให้รางวัลกระตุ้นให้คนทำงาน
• การใช้ความสำนึกกระตุ้นให้คนทำงาน
5.4 หลักจิตวิทยาความต้องการและความคาดหวังของมนุษย์
5.5 การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานผู้ใต้บังคับบัญชาตามแนวทางสร้างแรงจูงใจ
• การเปลี่ยนอุปนิสัยแบบ Reactive มาเป็น Proactive Thinking
• การปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ Advance แต่ Simple
• การมุ่งเป้าหมายการทำงานที่สูงแต่ยังคงไว้ซึ่งระเบียบวินัยที่สูง
• การมองปัญหาและอุปสรรคเป็นโอกาสและประสบการณ์
• การสร้างพึงพอใจในการทำงานระยะยาว
5.6 ข้อพึงระวังในการโน้มน้าวจูงใจผู้ใต้บังคับบัญชา
ภารกิจที่ 6 : ความสามารถหลัก 10 ประการ สำหรับหัวหน้างานที่ดี
6.1 มีความสามารถในการนำและทำงานเป็นทีม
6.2 มีความสามารถในการแก้ปัญหา
6.3 มีความสามารถในการสื่อสาร
6.4 มีความสามารถในการจัดการและบริหารเวลา
6.5 เป็นคนมีคุณภาพ
6.6 รู้จัก และ ขยันเรียนรู้คน
6.7 ทัศนคติบวก
6.8 ทำให้ดีที่สุด
6.9 มีทักษะการพูด การโน้มน้าว และจูงใจคน
6.10 เป็นผู้รู้จักวิเคราะห์
ภารกิจที่ 1 : บทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของหัวหน้างาน
1.1 หัวหน้างานคือใคร ?
1.2 ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบของหัวหน้างาน
1.3 บทบาทของหัวหน้างานในองค์กร : ทำไมต้องมีหัวหน้างาน ?
1.4 หัวหน้างานจะช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าหมายได้อย่างไร ?
1.5 การกระทำของหัวหน้างานจะส่งผลกระทบต่อองค์กรอย่างไร ?
1.6 คุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับหัวหน้างานสมัยใหม่ที่องค์กรคาดหวังและต้องการ
ภารกิจที่ 2 : บทบาทในการเป็นหัวหน้าทีม (Coaching) : บริหารคน
2.1 หัวหน้างานกับการบริหารคน
2.2 การจูงใจพนักงาน
2.3 การสื่อความ
2.4 การสร้างและพัฒนาทีมงาน
2.4 การสอนงาน (Coaching Techniques)
ภารกิจที่ 3 : บทบาทในการเป็นหัวหน้าทีม (Coaching) : บริหารงาน
3.1 หัวหน้างานกับการบริหารงาน
3.2 การวางแผนงาน การจัดระบบงาน และการจัดลำดับความสำคัญของงาน
3.3 การควบคุมและติดตามงาน
3.4 การพัฒนาและปรับปรุงงาน
ภารกิจที่ 4 : ทักษะในการสั่งงานและมอบหมายงาน
4.1 ทักษะการสั่งงาน
• ความจำเป็นที่ต้องมีการสั่งงาน
• ประเภทของการสั่งงาน (3 รูปแบบ)
• เทคนิคและวิธีการสั่งงานแบบทูอินวัน
• เครื่องมือที่ใช้ได้ผลสูงสุดในการสั่งงาน
• ทำไมหัวหน้างานถึงสั่งงานแล้วมักไม่ได้งาน
4.2 ทักษะการมอบหมายงาน
• หลักจิตวิทยาและแนวคิดที่สำคัญในการมอบหมายงาน
• กระบวนการและเทคนิควิธีการมอบหมายงานที่มีประสิทธิภาพ
• หลักเกณฑ์ในการมอบหมายงาน
• การคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมเพื่อการมอบหมายงาน
• ข้อพึงระวังในการมอบหมายงานครั้งต่อไป
ภารกิจที่ 5 : ทักษะการโน้มน้าวจูงใจผู้ใต้บังคับบัญชา
5.1 แนวคิด ทฤษฎี และหลักจิตวิทยาที่เกี่ยวข้องกับการโน้มน้าวจูงใจ
• ทฤษฎีการวางเงื่อนไข (Conditioning Theory)
• ทฤษฎีการเสริมแรง (Reinforcement Theory)
5.2 เทคนิคการปรับพฤติกรรม (Shaping) กับการสร้างแรงจูงใจ
5.3 การนำหลักการโน้มน้าวจูงใจไปใช้ในการทำงาน
• การใช้อำนาจที่มีอยู่กระตุ้นให้คนทำงานเต็มความสามารถ
• การใช้สิ่งล่อใจหรือการให้รางวัลกระตุ้นให้คนทำงาน
• การใช้ความสำนึกกระตุ้นให้คนทำงาน
5.4 หลักจิตวิทยาความต้องการและความคาดหวังของมนุษย์
5.5 การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานผู้ใต้บังคับบัญชาตามแนวทางสร้างแรงจูงใจ
• การเปลี่ยนอุปนิสัยแบบ Reactive มาเป็น Proactive Thinking
• การปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ Advance แต่ Simple
• การมุ่งเป้าหมายการทำงานที่สูงแต่ยังคงไว้ซึ่งระเบียบวินัยที่สูง
• การมองปัญหาและอุปสรรคเป็นโอกาสและประสบการณ์
• การสร้างพึงพอใจในการทำงานระยะยาว
5.6 ข้อพึงระวังในการโน้มน้าวจูงใจผู้ใต้บังคับบัญชา
ภารกิจที่ 6 : ความสามารถหลัก 10 ประการ สำหรับหัวหน้างานที่ดี
6.1 มีความสามารถในการนำและทำงานเป็นทีม
6.2 มีความสามารถในการแก้ปัญหา
6.3 มีความสามารถในการสื่อสาร
6.4 มีความสามารถในการจัดการและบริหารเวลา
6.5 เป็นคนมีคุณภาพ
6.6 รู้จัก และ ขยันเรียนรู้คน
6.7 ทัศนคติบวก
6.8 ทำให้ดีที่สุด
6.9 มีทักษะการพูด การโน้มน้าว และจูงใจคน
6.10 เป็นผู้รู้จักวิเคราะห์