ธุรกิจร้านอาหาร หนึ่งในธุรกิจการลงทุนที่คนให้ความสนใจมากคือการเปิดร้านอาหาร
รหัสหลักสูตร: 49528
สัมมนานี้ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว
(ถ้ามีจัด ท่านจะได้สิทธิ์ก่อน)
ก็จะมีกำไรจากธุรกิจนี้แต่แท้ที่จริงกลเม็ดเคล็ดลับในการเปิดร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จนั้นมีแก่นแท้ที่เราควรต้องศึกษา แม้เรื่องรสชาติจะถูกยกให้เป็นเรื่องสำคัญแต่สำคัญกว่าก็คือการบริหารต้นทุน การทำธุรกิจร้านอาหาร จะมีต้นทุนของสินค้า (หรือต้นทุนคงที่) กับต้นทุนแฝง (หรือต้นทุนผันแปร) ซึ่งเราต้องคำนวณออกมาให้ชัดเจน ยกตัวอย่าง เช่น
ต้นทุนคงที่ เป็นต้นทุนที่ผู้ประกอบการต้องแบกรับไม่ว่าจะขายได้มากหรือน้อยก็ตาม เช่น ค่าเช่าสถานที่ ค่าจ้างพนักงาน ค่าน้ำ ไฟและแก๊ส
ต้นทุนผันแปร ในธุรกิจร้านอาหารจะผันแปรตามยอดการขาย ถ้าคุณขายดี ต้นทุนของการซื้อวัตถุดิบก็จะสูงตามไปด้วย เช่น บางเทศกาลทางร้านจะขายดี เจ้าของร้านย่อมเตรียมซื้ออาหารมาตุนเอาไว้ แต่ช่วงที่ขายไม่ดี ก็จะไม่ซื้อสินค้ามาตุน เช่น ค่าวัตถุดิบต่างๆ เช่น ข้าว เนื้อหมู เนื้อไก่ ผัก น้ำมันพืช ไข่ไก่ ฯลฯ
1. ค่าวัตถุดิบอาหาร หรือ ที่ร้านอาหารเรียกว่า Food cost โดยปกติต้นทุนอาหารร้านทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 30-40% หรือ อาจสูงถึง 40-50% ถ้าเป็นร้านอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์ การลดต้นทุนอาหารลงได้ ย่อมหมายถึงร้านจะได้กำไรมากขึ้น ฉะนั้น สิ่งที่คุณควรทำคือบริหารต้นทุนให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
2. ต้นทุนแรงงาน นี้ถือ เป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่รองลงมาจากต้นทุนอาหาร ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้ โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 12-18% ของยอดขาย ขึ้นอยู่กับประเภทของร้าน เช่น ถ้าเป็นร้านอาหาร fast food หรือ self service ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก็จะน้อยกว่าร้านที่เป็นประเภท fine dining หรือ casual dining ซึ่งเน้นการบริการและพนักงานเสิร์ฟมากกว่า
3. ต้นทุนค่าเช่า ที่นี้ อาจเป็นได้ทั้งแบบคงที่ (Fixed rate) โดยคิดตามตารางเมตรที่เช่า ตามปกติสัดส่วนค่าใช้จ่ายส่วนนี้ รวมค่าน้ำค่าไฟและค่าแก๊สจะอยู่ประมาณ 10-20% ของยอดขาย
4. ต้นทุนการจัดการ จะรวมไปถึงค่าซ่อมแซมร้าน ค่าอุปกรณ์ทำความสะอาด ค่าทำการตลาดฯลฯ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 5-10% ของยอดขาย ทั้งนี้ แต่ละร้านอาจจำแนกต้นทุนการจัดการนี้ไม่เหมือนกัน เช่น ค่าทำการตลาด เราอาจกำหนดงบประมาณเป็นแบบคงที่ในแต่ละเดือนหรืออาจตั้งงบเป็นเปอร์เซ็นต์ ตามสัดส่วนรายได้ในแต่ละเดือน
5. ต้นทุนการบริหาร ต้นทุนการบริหาร ประกอบไปด้วย ค่าอุปกรณ์สำนักงาน ค่าโทรศัพท์ ค่าที่ปรึกษาต่างๆ เช่น ค่าจ้างบริษัทบัญชี ค่านักกฎหมาย รวมไปถึง ค่าลิขสิทธิ์หรือใบอนุญาตต่างๆ รวมไปถึงเงินเดือนของเจ้าของเอง โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 1-5% ของยอดขายสำหรับร้านที่มีหลายสาขา อาจมีค่าใช้จ่ายในส่วนของพนักงานส่วนกลางเพิ่มเติมขึ้นมา เช่น พนักงานบุคคล บัญชี การตลาดหรือร้านไหนที่ซื้อแฟรนไชส์มา อาจมีค่า Royalty fee หรือค่า Management fee เพิ่มขึ้น
สรุปก็คือ หากธุรกิจร้านอาหาร ไม่ว่าจะหรูหรา หรือริมถนน มีต้นทุนคงที่สูง จะมีลักษณะความเสี่ยงมาก มีผลตอบแทนสูง แต่หากเป็นธุรกิจร้านอาหารที่มีต้นทุนผันแปรสูง ก็จะมีลักษณะความเสี่ยงน้อย ผลตอบแทนก็ต่ำลงไปด้วยนั่นเองแต่ร้านอาหารแบบไหนแบบใด จะทำไรมากกว่ากัน ก็ต้องขึ้นอยู่กับรสชาติ คุณภาพของอาหาร ทำเลที่ตั้ง รวมวิธีการทำตลาดให้เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคด้วยเช่นกัน ร้านข้างทางถ้ารสชาติอร่อย ขายได้มาก ก็ได้กำไรมากเช่นกัน
ดูรายละเอียดที่ Start Up ธุรกิจร้านอาหาร
สถานที่อบรม ศึกษาศาสตร์ ตึก 2 ชั้น2 ห้องปฏิบัติการคหกรรม ศษ.๓-๒๐๘ ภาควิชาอาชีวศึกษา
เริ่ม วันที่ 24 -25 กุมภาพันธ์ 2561
ดูรายละเอียดที่ ทำร้านอาหารให้รวย ผมช่วยได้
สถานที่อบรม อาคารวิทยบริการ สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม