ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นนับเป็นภัยร้ายแรงอย่างยิ่งต่อประเทศชาติ ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะได้มีการกำหนดนโยบายในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตมาโดยตลอด แต่การทุจริตคอร์รัปชั่นก็ยังคงสร้างความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการบริหารจัดการภาครัฐในปัจจุบันได้ยึดหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี หรือธรรมาภิบาล (Good Governance) เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิผล มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า มีการบริหารที่เปิดเผย โปร่งใส และเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546 ทำให้ส่วนราชการต่างๆ มีการปรับตัว และวิธีการทำงานให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ เพื่อให้บริหารงานภาครัฐมีความโปร่งใส และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ในปัจจุบันนโยบายการปฏิรูปทุกภาคส่วน กำหนดให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ กำหนดมาตรการหรือแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบในส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ โดยมุ่งเน้นการสร้างธรรมาภิบาลในการบริหารงานและส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในการตรวจสอบ เฝ้าระวัง เพื่อสกัดกั้นมิให้เกิดการทุจริตประพฤติมิชอบได้ รวมถึงการกำหนดให้หัวหน้าส่วนราชการและหัวหน้าหน่วยงานของรัฐมีหน้าที่ในการควบคุม กำกับดูแล การดำเนินงานให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในขณะเดียวกันผู้ปฏิบัติงานต้องพบกับความเสี่ยงในขั้นตอนการบริหารพัสดุอันเนื่องมาจากขาดความรู้ ความเข้าใจในหลักการและวิธีปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี หรือคำสั่งที่เกี่ยวข้อง จนก่อให้เกิดข้อผิดพลาดในการปฏิบัติงาน ซึ่งผู้เกี่ยวข้องทุกระดับต้องตระหนักและให้ความสำคัญเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยง เพื่อลดข้อผิดพลาด และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานพัสดุภาครัฐด้วยสมาคมนักบริหารพัสดุแห่งประเทศไทยเห็นว่า เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านพัสดุหรือผู้เกี่ยวข้อง ควรจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจในบริบทต่างๆ ที่เกี่ยวกับมาตรการและแนวทางการป้องกันการทุจริต และความเสี่ยงที่ควรระวังในการปฏิบัติงานด้านพัสดุ จึงได้จัดโครงการสัมมนาทางวิชาการ เรื่อง “การป้องปรามการทุจริต ลดความเสี่ยง และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานพัสดุภาครัฐ” ขึ้น
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาที่ปฏิบัติงานด้านการพัสดุและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้ตระหนักถึงผลเสียหายจากการทุจริตประพฤติมิชอบในส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ
2. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาสามารถแก้ไขปัญหาอันเกิดจากวิธีปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2549 และสามารถนำไปปรับใช้กับหน่วยงานได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ
3. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รับทราบถึงการบริหารงบประมาณในสถานการณ์ปัจจุบันมาตรการหรือแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบในส่วนราชการ และข้อพึงระวังและข้อสังเกตจากหน่วยงานตรวจสอบ เพื่อลดความเสี่ยงในการปฏิบัติงานด้านพัสดุ
4. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ข้อคิดเห็น ปัญหาอุปสรรคต่างๆในการบริหารงานพัสดุ ระหว่างผู้เข้าร่วมสัมมนาด้วยกันและวิทยากร
เทคนิคการสัมมนา บรรยาย อภิปราย และตอบปัญหาข้อซักถาม